Business

ส่องดัชนีเชื่อมั่นซื้อที่อยู่อาศัย ไตรมาส 1 ปี 2567 ลดลงจากปัจจัยลบรุมเร้า

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล  ภาพรวมไตรมาส 1 ปี 2567

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในภาพรวมของไตรมาส 1 ปี 2567 มีค่าดัชนีเท่ากับระดับ 39.2 ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 ที่มีค่าดัชนีเท่ากับระดับ 44.5 และเป็นระดับความเชื่อมั่นที่ต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0

ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย

ตัวเลขดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีความเชื่อมั่นในระดับเกณฑ์ต่ำ อาจจะเป็นผลมาจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นตลอดปี 2566 และยังคงตัวในระดับสูงในไตรมาสนี้ ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยโดยตรง

ขณะเดียวกัน ยังอยู่ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย อีกทั้งหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับเกินว่า 90% ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยไม่มีความพร้อมทางการเงิน ส่งผลให้มีความกังวลต่อการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพราะเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธสินเชื่อ

นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับข้อมูลโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลในไตรมาส 1 ปี 2567 ที่มีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ลดลง 24% และมีมูลค่าลดลง 25.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จะเห็นว่าความเชื่อมั่นและความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยลดลงมากในไตรมาสนี้

ดัชนีซื้อที่อยู่

ศูนย์ข้อมูลฯ ยังได้ศึกษาถึงกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจในมิติต่าง ๆ ดังนี้

ลักษณะทางประชาการศาสตร์ของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง 53.1% และส่วนใหญ่มีอายุอยู่ระหว่าง 25-34 ปีหรือเป็นคนกลุ่ม Gen Y และ Gen Z มากที่สุด 51.9% ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีระดับการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าคิดเป็น 72.2%

ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ 60.6% มีอาชีพเป็นพนักงานเอกชน และส่วนใหญ่ 36.3% มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ในช่วง 15,001-30,000 บาท ทั้งนี้ ลักษณะทางประชากรศาสตร์ในภาพรวมมีความใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า ทั้งด้าน เพศ ช่วงอายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน

แผนภูมิผู้ซื้อ

ด้านวัตถุประสงค์ในการซื้อที่อยู่ใหม่ พบว่า ผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ 32.6% ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อันดับสอง คือต้องการซื้อเพื่อลงทุนเก็งกำไร/ให้เช่า 18.4% และอันดับสาม ซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สิน 14.9%

จะเห็นว่าวัตถุประสงค์ที่ซื้อเพื่อลงทุนและเป็นทรัพย์สิน มีสัดส่วนรวมกันถึงร้อยละ 33.3 แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยให้ความสำคัญกับการลงทุน สะสมความมั่งคั่งและสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต

หากเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 พบว่า ปัจจัยที่ผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเลือกพิจารณาที่มีสัดส่วนมากขึ้น คือ ต้องการซื้อเพื่อลงทุนเก็งกำไร/ให้เช่า และต้องการแยกครอบครัว/แต่งงาน โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 18.4% และ 9.6% จาก 12.4% และ 7.5% ตามลำดับ

วัตถุประสงค์การซื้อที่อยู่

พิจารณาลักษณะความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย 

  • ประเภททรัพย์

ส่วนใหญ่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยทั้งมือหนึ่งหรือมือสองร้อยละ 52.8 และหากพิจารณาเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 พบว่าผู้ที่ต้องการเฉพาะที่อยู่อาศัยมือหนึ่งเท่านั้นมีสัดส่วนเป็น 38.9% ลดลงจาก 41.5% ในขณะที่ผู้ที่ต้องการเฉพาะที่อยู่อาศัยมือสองมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 8.2% จาก 6.9% ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นว่าผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีความสนใจบ้านมือสองมากขึ้น

  • ช่วงราคาของที่อยู่อาศัย

ส่วนใหญ่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท คิดเป็น 26.2% รองลงมาได้แก่ระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท คิดเป็น 24.8% ซึ่งทั้งสองช่วงระดับราคาดังกล่าวเป็นกลุ่มหลัก มีสัดส่วนรวมกันถึง 51%

จากข้อมูลยังพบว่าผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยระดับราคาสูง มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 โดยมีข้อสังเกตได้จากผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยระดับราคา 10.01- 15 ล้านบาท และ 15.01- 20 ล้านบาท มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 4% และ 4.9% จาก 1.1% และ 0.3% ตามลำดับ

ประเภท ราคา

  • ประเภทที่อยู่อาศัย

ส่วนใหญ่ต้องการซื้อบ้านเดี่ยว 39.3% และต้องการซื้อในระดับราคา 3.01-5 ล้านบาทมากที่สุด รองลงมาคือคอนโดมิเนียม 34.9% โดยต้องการซื้อในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาทมากที่สุด

สำหรับทาวน์เฮ้าส์มีความต้องการซื้อ 20% และส่วนใหญ่ต้องการซื้อในระดับราคา 2.01 – 3 ล้านบาท มากที่สุด ส่วนบ้านแฝดมีความต้องการซื้อ 5.5% และส่วนใหญ่ต้องการซื้อในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาทมากที่สุด และอาคารพาณิชย์มีความต้องการซื้อ 0.3% และต้องการซื้อในระดับราคา 2.01-3 ล้านบาทมากที่สุด

หากพิจารณาเทียบกับอายุของผู้ตอบพบว่า กลุ่มผู้มีอายุอยู่ระหว่าง 18-44 ปี มีความสนใจซื้อบ้านเดี่ยวมากที่สุด ในขณะที่กลุ่มผู้ที่มีอายุระหว่าง 45-54 ปี และ 55 ปีขึ้นไป มีความสนใจซื้อคอนโดมิเนียมมากที่สุด ซึ่งอาจเกิดจากความต้องการซื้อเพื่อลงทุนและเก็งกำไรเนื่องจากมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองแล้ว

ระดับราคา

จังหวัดที่มีความสนใจจะซื้อที่อยู่อาศัย

เมื่อพิจารณาจังหวัดที่มีความสนใจจะซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุด 10 อันดับแรก ณ ไตรมาส 1 ปี 2567 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม ชลบุรี สมุทรสาคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครสูงถึง 48.1% โดยเฉพาะทำเลตามแนวรถไฟฟ้าสายหลัก ใกล้แหล่งงานหรือแหล่งชุมชน เช่น ทำเลพระราม 9 บางนา บางแค ลาดพร้าว และห้วยขวาง โดยจังหวัดในอันดับที่ 2-10 มีสัดส่วนอยู่ระหว่าง 1.4-10.6% ในขณะที่จังหวัดอื่นๆ มีความต้องการซื้อรวมเพียง 6.6%

จังหวัด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo