Branding

โจทย์ท้าทายเจน 3 ‘ตะขาบ5ตัว’ ล้างภาพ ‘น่ากลัว’ ในสายตา ‘คนรุ่นใหม่’

ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว โดยบริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด นับเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 80 ปี ก่อตั้งโดย นายจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม ซึ่งอพยพจากเมืองจีนเข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย ด้วยความรู้และทักษะทางด้านสมุนไพรและการตรวจชีพจร จึงได้ทดลองทำยาใช้เองในหมู่เครือญาติ จนกระทั่งเริ่มวางจำหน่ายโดยใช้ตะขาบเป็นเครื่องหมายการค้าและบรรจุภัณฑ์มีรูปนายจุ้ยไซอยู่ตรงกลาง

SPD 8904

จนถึงปัจจุบัน ยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน และประสบความสำเร็นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานจวบจนปัจจุบัน

แต่ด้วยความที่เป็นแบรนด์เก่าแก่อยู่มานานเกือบศตวรรษ แม้จะได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่า กลุ่มลูกค้าดั้งเดิมเป็นกลุ่มที่มีอายุมากขึ้นทุกวัน ซึ่งในแง่ของการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาส แต่ในทางกลับกัน กลับทำให้แบรนด์เกิดจุดอ่อน หรือช่องว่างในการเข้าุถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อแบรนด์ในระยะยาวได้ เนื่องจากขาดความต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ

เมื่อธุรกิจถูกขับเคลื่อนมาถึงรุ่นที่ 3 ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ จึงมองถึงจุดอ่อนและช่องว่างทางการตลาดที่มีอยู่ และทำให้เกิดการ “ปฏิวัติแบรนด์ครั้งสำคัญ” นับแต่ก่อกำเนิดมาเลยทีเดียว

นายกรีฑา สิมะวรา ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด เปิดเผยว่า นับจากรุ่นที่ 1 เป็นยุคของการเริ่มก่อตั้งธุรกิจ จากการที่มีตำรับยาสูตรยา นำมาพัฒนาสินค้าและเริ่มสร้างแบรนด์ ต่อด้วยรุ่นที่ 2 ซึ่งถือเป็นยุคของการขยายช่องทางจำหน่าย เพื่อให้สินค้ากระจายได้ครอบคลุมทั่วถึงผู้บริโภค จนถึงปัจจุบันถือว่า แบรนด์ตะขาบ 5 ตัว มีช่องทางจำหน่ายครอบคลุมทั่วถึงเป็นที่น่าพอใจ

กรีฑา สิมะวรา ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด
กรีฑา สิมะวรา

ล่าสุดในการดำเนินธุรกิจถือเป็นรุ่น 3 ที่มีทายาทในรุ่นที่ 3 เข้ามาช่วยบริหารงาน 4 คน ซึ่งแบ่งหน้าที่กันดูแล 4 ด้านได้แก่ ด้านการผลิต, การส่งออก, การนำเข้าแบรนด์สินค้าใหม่มาจำหน่ายในไทย และ งานด้านการขายและการตลาดในประเทศ ซึ่ง “กรีฑา” ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด รับผิดชอบดูแลการขายและทำตลาดในประเทศไทย

กรีฑาเล่าว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของแบรนด์ตะขาบ 5 ตัว แบ่งเป็นสองส่วนคือ คนไทย และ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมซื้อไปฝากครอบครัวเมื่อมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งถือว่าตลาดหลักทั้งสองกลุ่มยังคงไปได้ดี มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

แต่ความท้าทายซึ่งเป็นโจทย์ของเจน 3 คือ การสร้างแบรนด์ตะขาบ 5 ตัว สู่การเป็นริจินัล แบรนด์ หรือแบรนด์ระดับภูมิภาค รวมถึงการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ที่ปัจจุบันยังไม่เข้าถึงแบรนด์ ไม่กล้าทดลองใช้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่คิดว่า แบรนด์ “น่ากลัว” และ “เชย” อาจเป็นเพราะภาพตะขาบ 5 ตัวบนบรรจุภัณฑ์ และยอมรับว่า ที่ผ่านมาบริษัทไม่มีการสื่อสารเข้าถึงลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมากนัก

คณะผู้บริหารบริษัท ห้าตะขาบ ซิมเทียนฮ้อ จำกัด

“ก่อนหน้านี้ เราเหมือนคนจีนแก่ๆ หรือหมอจีนแก่ๆ คนหนึ่ง มีการโฆษณาสร้างการรับรู้ในแบรนด์น้อยมาก เพราะมองว่า ตัวสินค้าสามารถขายได้ด้วยตัวเองจากคุณสมบัติที่มี”

ดังนั้น เมื่อวางเป้าหมายจะขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงต้องปรับวิธีการคิด การทำตลาด ตลอดจนการสื่อสารใหม่ ใช้การโฆษณาแบบเก่าๆ ไม่ได้ผลอีกต่อไป โดยวางเป้าหมายสำคัญคือ การทำให้ลูกค้าคนรุ่นใหม่ “ไม่กลัว” แบรนด์ เปิดใจรับ และเกิดการทดลองใช้ ซึ่งเชื่อว่าด้วยสรรพคุณของสินค้าจะทำให้เกิดการยอมรับได้ในที่สุด ซึ่งด่านแรกคือ ต้องทำให้เกิดความกล้าที่จะทดลองใช้ก่อน

นี่จึงเป็นที่มาของการร่วมโปรเจคพิเศษกับสยามเซ็นเตอร์ และร้าน Absolute Siam Store โดยได้ “เกรย์ฮาวด์” แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของไทย มาร่วมกลยุทธ์คอลลาบอเรชั่นทั้งสองแบรนด์ เพื่อพัฒนาให้เป็นสินค้าพิเศษที่ไม่เคยทำมาก่อน โดยได้แรงบันดาลใจมากจากแนวคิดที่ต้องการนำโลโก้ของซองตะขาบมาปรับให้ดูเป็นแฟชั่นและไลฟ์สไตล์แนวสตรีทมากขึ้น นำลายตะขาบซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของแบรดน์ดีไซน์ลงในแฟชั่นไอเท็มที่ง่ายต่อการสวมใส่ให้อยู่คู่กับชีวิตประจำวันได้อย่างกลมกลืน

e8f9c86d6370fd78823b3d966e2c586e 1

ลวดลายของตะขาบ จึงได้ถูกนำมาวางไว้บนเสื้อทีเชิ้ต , เสื้อฮาวาย , หมวก ,และกระเป๋าผ้า เพื่อจำหน่ายในร้าน Absolute Siam Store ซึ่งคาดว่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่ และเป็นการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างกลมกลืน

“หากใช้การตลาดทั่วไป คนอาจไม่สนใจ เลยใช้วิธีดูว่าลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจในเรื่องอะไร และพบว่าส่วนใหญ่สนใจเรื่องของแฟชั่น จึงนำแฟชั่นมาเป็นจุดเชื่อมแบรนด์ไปหาลูกค้า ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของการปฏิวัติแบรนด์ในรอบกว่า 80 ปีนับแต่ก่อตั้งมา เพราะเราเปลี่ยนตัวยาไม่ได้ เปลี่ยนซองก็ยาก เพราะเป็นที่รู้จักและจดจำได้ของลูกค้าในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากพอสมควร ที่จะทำให้คนรุ่นใหม่ไม่กลัวแบรนด์ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแบรนด์หรือบรรจุภัณฑ์ สิ่งที่ต้องทำคือ ต้องแหวกแนวออกไปเลย”

บรรยากาศในงานเปิดร้าน Absolute Thai Souvenir Pop Up ที่สยามเซ็นเตอร์

นับเป็นก้าวแรกของการปฏิวัติแบรนด์ และยังถือเป็นวิชั่นสำคัญของเจเนอเรชั่น 3 ในช่วง 3 ปีจากนี้ ที่ต้องทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ วัยรุ่นได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดใจรับ และกล้าทดลองใช้ ก่อนจะไต่ไปสู่เป้าหมายการปั้นริจินัลแบรนด์ต่อไป โดยปัจจุบัน ตะขาบ 5 ตัวยังส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศมาแล้วนับ 10 ปี โดยเฉพาะในฮ่องกง และมาเก๊า ที่ได้รับผลตอบรับดีมาก และจะขยายตลาดในเออีซีต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการจดทะเบียนในเวียดนามอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ฝีมือของเจเนอเรชั่น 3 ของ ตะขาบ 5 ตัว ด้วยเช่นกัน!!!

Avatar photo