Economics

รอก่อน! ‘รมช.คลัง’ คาดปลายสัปดาห์หน้าได้ข้อสรุปใช้เงินหมื่นซื้อ ‘สมาร์ทโฟน’

รอก่อน! “รมช.คลัง” คาดปลายสัปดาห์หน้าได้ข้อสรุปใช้เงินหมื่นซื้อ “สมาร์ทโฟน” ได้หรือไม่ จ่อถามกฤษฎีกากรณี “ธ.ก.ส.” เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม แจงปมหุ้นดิ่ง ลั่นไม่กี่วันอากาศก็คงเคลียร์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ทบทวนการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ตที่สามารถใช้ซื้อโทรศัพท์มือถือได้ว่า เรื่องนี้ผมและนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ทักประเด็นนี้ไปว่าเราอยากจะให้เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศเป็นหลัก แต่มีขอปฏิบัติจริงบางส่วน เพราะร้านค้าบางร้านนั้นขายของผสมกันหลายอย่าง ซึ่งข้อกังวลนี้เป็นของภาคการปฏิบัติจริง กระทรวงพาณิชย์จึงเสนอมาที่อนุกรรมการกำกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาทสุดท้ายจึงมีมติตามเดิม

สมาร์ทโฟน

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ค่อนข้างห่วงเรื่องนี้ เนื่องจากกลไกของเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ต้องการให้มีการบริโภค การผลิต และการจ้างงานภายในประเทศเป็นหลัก เลยต้องทบทวนดู โดยคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ จึงจะได้ข้อสรุป และปลายสัปดาห์หน้าเราจะนัดประชุมกันอีกครั้ง

เมื่อถามว่าการใช้แหล่งเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จะถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาเมื่อไร นายจุลพันธุ์ กล่าวว่า เมื่อถึงเวลา กำลังดูกรอบเวลาอยู่ไม่ได้มีอะไร

เมื่อซักว่ากรณีที่ไม่สามารถใช้เงิน ธ.ก.ส.ได้ จะมีทางออกอย่างไร ที่ตอนนี้มีเพียงแหล่งเงินจากงบประมาณปี 2567 และ 2568 นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดประเด็นนั้น ดูความเหมาะสมทุกอย่าง ดูองค์ประกอบ ดูการลงทะเบียน หลาย ๆ อย่างมันต้องประกอบกัน

สมาร์ทโฟน

เมื่อถามต่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนอย่างไร ที่ขณะนี้หุ้นตกในรอบ 14 ปี ในยุครัฐบาลเพื่อไทย นายจุลพันธ์ กล่าวว่า อันนี้ผมเข้าใจ แต่ปัจจัยมันคือปัจจัยทางการเมือง ซึ่งตลาดหุ้นขับเคลื่อนด้วยความมั่นใจ ต้องยอมรับความจริงว่าด้วยสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงเดือนนี้ มี 3-4 เคส แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบกับปัจจัยพื้นฐาน ฉะนั้นสภาพตลาดเรายังคงความแข็งแกร่ง รวมถึงกลไกที่รัฐบาลได้ผลักดัน ทั้งเรื่องการลงทุนต่างประเทศ การพัฒนาคุณภาพแรงงานอัพสกิล รีสกิล ทั้งหมดนี่จะสร้างความเชื่อมั่นได้ ในส่วนพื้นฐานของตัวตลาด

“อีกไม่กี่วันเรื่องราวที่เป็นข้อห่วงใยของตลาดที่เกิดความลังเล สงสัยกันขึ้นมา สุดท้ายก็จะมีกระบวนการทางศาลรัฐธรรมนูญ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบการทจริแห่งชาติ เมื่อมันมีความกระจ่างชัดไปทางใดทางหนึ่ง ตลาดก็จะรับข้อมูลเหล่านั้น และคงจะกลับมาสู่ภาวะปกติ” นายจุลพันธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าต้องมีมาตรการอะไรออกมาช่วยหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า สุดท้ายคงต้องมีมาตรการ แต่มันไม่ใช่มาตรการที่ออกกันวันเดียว แต่กลไกในวันนี้ยังมีผลกระทบจากเรื่องตลาดเกิดความสงสัยในสถานการณ์การเมือง เพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น ไม่กี่วันอากาศก็คงเคลียร์ขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo