COLUMNISTS

ลำไส้แปรปรวน ควรกินอะไร ให้สุขภาพท้องไส้ดียิ่งขึ้น

Avatar photo
Longevity Inspirationist ผู้เชี่ยวชาญสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการรักสุขภาพ

ปัญหาท้องไส้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เมื่อลำไส้แปรปรวน ควรกินอะไร ให้สุขภาพท้องไส้ดียิ่งขึ้น

ปัญหาลำไส้แปรปรวนแสนน่ารำคาญ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเรื่องของอาหารการกิน ปัญหาเชื้อโรคหรือแบคทีเรียในลำไส้ หรือแม้แต่ปัญหาจากความเครียด ส่งผลต่อสุขภาพลำไส้แย่ลงตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งปัญหาลำไส้นี้อาจมา ๆ หาย ๆ แล้วแต่ช่วงระยะเวลาและปัจจัยต่าง ๆ ร่วมกัน แต่อาจมีโรคทางลำไส้ที่หลายคนไม่รู้จัก คือโรคลำไส้แปรปรวน ซึ่งคนที่ปวดท้องบ่อยตลอดระยะเวลาหลายเดือน ก็อาจมีความเสี่ยงเป็นโรคลำไส้แปรปรวนได้ สาเหตุของโรคนี้คืออะไร อาการที่แน่ชัดเป็นอย่างไร แล้วลำไส้แปรปรวน ควรกินอะไรให้สุขภาพลำไส้ดียิ่งขึ้น

ลำไส้แปรปรวน

โรคลำไส้แปรปรวน หรือโรค IBS

โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome หรือ IBS) เป็นโรคอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบทางเดินอาหารที่ผิดปกติโดยเฉพาะส่วนลำไส้ ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังอย่างหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน แต่โรค IBS นี้จะไม่สร้างตวามเสียหายอย่างถาวรต่อระบบทางเดินอาหาร และไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคลำไส้อักเสบ โรคโครห์น (Crohn’s syndrome) โรคแผลในกระเพาะอาหาร รวมถึงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

อาการของโรคลำไส้แปรปรวน เป็นอย่างไร

อาการของโรคนี้มีหลากหลาย ซึ่งแต่ละคนที่ป่วยเป็นโรคลำไส้แปรปรวนอาจมีอาการแตกต่างกันออกไป แต่มีอาการบางอย่างที่สามารถพบได้บ่อย เช่น

  • อาการปวดท้องหรือตะคริวขึ้นท้อง มักจะมีอาการแย่หลังจากรับประทานอาหารและดีขึ้นหลังจากการอุจจาระ
  • ท้องอืด อาจรู้สึกว่าท้องอิ่มและบวมกว่าปกติจนเกิดอาการไม่สบายตัว มีแก๊สอยู่ในท้องเยอะ
  • ท้องเสีย อาจอุจจาระบ่อยกว่าปกติ อุจจาระเป็นน้ำหรืออาจต้องถ่ายอุจจาระกะทันหัน
  • ท้องผูก อุจจาระลำบากและหนักกว่าปกติ อาจรู้สึกว่าถ่ายอย่างไรก็ออกไปไม่หมด
  • อาจมีอาการท้องเสียและอาการท้องผูกในเวลาเดียวกัน

อาการเหล่านี้มักจะอยู่นานหลายวันหรือ หลายอาทิตย์หรือมีอาการเป็นเดือน ซึ่งอาจมีบางวันที่มีอาการปกติ และบางวันที่อาการแย่ลงถึงขั้นหนัก นอกจากนี้ โรคลำไส้แปรปรวนก็อาจมีอาการเหล่านี้เพิ่มเติม เช่น

  • มีการผายลมบ่อย เนื่องจากท้องอืดมากเกินไป
  • มีเมือกในอุจจาระ
  • รู้สึกเหนื่อยง่าย ไม่มีพลังงาน
  • รู้สึกไม่สบาย คลื่นไส้
  • ปวดหลัง
  • มีปัญหากับการปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย ปวดปัสสาวะกะทันหัน และรู้สึกว่าไม่สามารถปัสสาวะจนหมด
  • ในบางครั้งก็ไม่สามารถควบคุมการถ่ายอุจจาระได้

ซึ่งอาการเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นได้กับความผิดปกติอื่น ๆ หรือโรคทางเดินอาหารอีกหลายโรค ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยโรคทางเดินอาหารอย่างถูกต้องและได้รับการรักษาอย่างตรงจุด หากรู้สึกว่าอาการเริ่มรุนแรงขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

สาเหตุของโรคลำไส้แปรปรวน เกิดจากอะไรได้บ้าง

สาเหตุของโรคลำไส้แปรปรวนนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด หรือยังหาสาเหตุที่แน่นอนไม่ได้ ซึ่งโรคลำไส้แปรปรวนเป็นโรคที่ไม่พบการอักเสบภายในลำไส้ และอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าโรคนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อระบบทางเดินอาหาร แต่สาเหตุของโรคลำไส้แปรปรวน อาจมีจากหลากหลายปัจจัยร่วมกัน ซึ่งมีการวิเคราะห์สาเหตุกันออกมา เช่น

ลำไส้แปรปรวน

การหดตัวของกล้ามเนื้อในลำไส้

การหดตัวอย่างรุนแรงและนานกว่าปกติของกล้ามเนื้อลำไส้ อาจทำให้เกิดแก๊ส ท้องอืดและท้องร่วงได้ และการหดตัวของกล้ามเนื้อก็อาจทำให้อาหารผ่านทางเดินอาหารได้ช้าลง ส่งผลให้มีปัญหากับการถ่ายอุจจาระ

ระบบประสาทลำไส้

อาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทในระบบย่อยอาหาร อาจทำให้รู้สึกไม่สบายท้องเมื่อช่องท้องมีการยืดออก และประสาทระหว่างสมองกับลำไส้อาจทำให้ร่างกายตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการย่อยอาหารที่มากเกินไป ส่งผลทำให้ท้องอืด ท้องเสีย ปวดท้อง เป็นต้น

การติดเชื้อในลำไส้

สาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้เกิดโรคลำไส้แปรปรวน ซึ่งอาจเกิดจากการที่มีแบคทีเรียส่วนเกินในลำไส้มากจนเกินไป
ครอบครัวมีประวัติโรคลำไส้แปรปรวน
พันธุกรรมก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุได้ แต่ยังไม่มีการพิสูจน์ที่แน่ชัด

การเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ภายในลำไส้

การเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรีย เชื้อรา หรือสิ่งอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ที่มีบทบาทสำคัญในระบบลำไส้และการขับถ่าย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์เหล่านี้ ก็อาจทำให้อาการของโรคลำไส้แปรปรวนเกิดขึ้นได้

ปัญหาสุขภาพจิต

ความเครียด ภาวะวิตกกังวล และอาการปัญหาสุขภาพจิตอย่างอื่นก็อาจเป็นสาเหตุของโรคลำไส้แปรปรวนได้ และอาจทำให้อาการแย่ลงได้ด้วยเช่นกัน

ลำไส้แปรปรวน

อาหารการกิน

อาหารบางอย่างหรือพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคลำไส้แปรปรวนได้ เช่นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง อาหารไขมันสูง และคาเฟอีน

ควรกินอะไร หากเป็นหรือมีอาการลำไส้แปรปรวน

ผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวนก็อาจต้องเลี่ยงอาหารหลายอย่างเพื่อลดความเสี่ยงต่ออาการกำเริบ และเลือกรับประทานอาหารที่เป็น

  • เนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น อกไก่ กุ้ง เนื้อส่วนต่าง ๆ ที่มีไขมันต่ำ
  • เนื้อปลา เช่น ปลาแซลมอน แองโชวี่ ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน ปลาเฮอริ่ง เป็นต้น
  • โปรตีนไขมันต่ำ เช่น ไข่ เต้าหู้
  • อาหารที่มีไฟเบอร์ละลายน้ำได้ (Soluble fiber) อาหารไฟเบอร์สูง เช่น ข้าวโอ๊ต ถั่ว
  • ผลไม้บางชนิดอย่างส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ กีวี่ องุ่น เป็นต้น
  • ผักที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ย่อยง่าย เช่น แครอท มะเขือยาว ถั่วเขียว ฟักทอง เป็นต้น
  • อาหารที่มีโพรไบโอติกส์ เช่น โยเกิร์ต โซบะ ซุปมิโซะ เป็นต้น

นอกจากอาหารเหล่านี้ การรับประทานอาหารจำนวนพอดี ไม่มากจนเกินไป ก็สามารถช่วยบรรเทาหรือลดความเสี่ยงของอาการโรคลำไส้แปรปรวนได้เช่นเดียวกัน

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวน ต้องมีการจดบันทึกและจำให้ได้ว่าอาหารประเภทไหนที่เป็นกลไกที่ทำให้เกิดอาการลำไส้แปรปรวนและควรเลี่ยงอาหารเหล่านั้นให้ได้มากที่สุด และทางที่ดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด เพื่อควบคุมอาการให้ได้มากที่สุดเช่นกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่