Technology

‘e-Tax Invoice’ ทางเลือกนำส่งภาษียุคใหม่ เพิ่มความสะดวก SMEs ไทย

ทำความรู้จัก “e-Tax Invoice” ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อ SMEs ไทย พร้อมแนะนำวิธีการใช้งานอย่างมืออาชีพ

ปัจจุบันการยื่นภาษีสะดวกและง่ายมากขึ้น เพราะเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการยื่นภาษี ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) ที่แค่คลิกเดียวก็สามารถยืนยันตัวตนและเชื่อมข้อมูลรายได้-รายจ่ายมาให้โดยไม่ต้องเสียเวลาหาเอกสาร

e-Tax Invoice

สำหรับผู้ประกอบการ หนึ่งในระบบที่น่าสนใจและช่วยลดภาระในการนำส่งภาษีคือ ระบบการจัดส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์โดยการประทับรับรองเวลา ซึ่งพัฒนาโดยกรมสรรพากร และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)

สำหรับการเรียกชื่อของระบบดังกล่าว กรมสรรพากรจะเรียกว่า e-Tax Invoice by TimeStamp ขณะที่ ETDA จะเรียกว่า e-Tax Invoice by Email ซึ่งเป็นระบบเดียวกัน โดยผู้ประกอบการสามารถจัดทำและส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอีเมลด้วยการประทับรับรองเวลา (e-Timestamping)

ทั้งนี้ นับแต่แต่เปิดให้บริการในปี 2560 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ประกอบการใช้งานแล้วถึง 1,278,098 ฉบับ (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มิ.ย. 2567) ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนถึงการใช้งานระบบที่มีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยนโยบายภาครัฐก็มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการใช้ระบบ e-Tax Invoice ไม่ว่าจะเป็นโครงการ Easy E-Receipt หรือนโยบายหักรายจ่าย 2 เท่าสำหรับบริษัทที่ลงทุนในระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้รับความนิยมมากในช่วงที่ผ่านมา

e Tax Invoice 5

ทำความรู้จัก e-Tax Invoice “ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์”

e-Tax Invoice คือรูปแบบของการส่งใบกำกับภาษีจากเดิมที่เป็นกระดาษ ก็เปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แทน ทำให้การเก็บรักษา และการค้นหาเอกสารง่ายขึ้น โดยประเภทของ e-Tax Invoice ก็จะขึ้นอยู่กับขนาดของผู้ประกอบการและรูปแบบของการนำส่งใบกำกับภาษี

ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มียอดขายจำนวนมาก ก็จะใช้วิธีการส่ง e-Tax Invoice แบบ Host to Host ที่นำส่งข้อมูลแบบเชื่อมต่อระบบกับกรมสรรพากรเลย

ส่วนผู้ประกอบการรายเล็ก หรือ SMEs ก็จะใช้วิธีอัพโหลดเอกสารผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร แต่ถ้า SMEs รายใดไม่สะดวกที่จะนำส่งใบกำกับภาษีเองก็จะมี e-Tax Servicer Provider ที่ผ่านการรับรองจากกรมสรรพากร หรือ ETDA มาช่วยจัดการในเรื่องนี้

ทั้งนี้ SMEs หรือ ผู้ประกอบการรายเล็ก ที่มีรายได้ไม่ควรเกิน 30 ล้านบาทต่อปีที่มีจำนวนใบกำกับภาษีไม่มากนัก สามารถนำส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ให้กับกรมสรรพากรและผู้ซื้อได้ทางอีเมล โดยผู้ประกอบการจะต้องลงทะเบียนอีเมลกับกรมสรรพากรก่อนใช้งานอีเมล เพื่อให้ระบบรับรองความมีอยู่ของใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นั้น ซึ่งจะมีการประทับรับรองเวลา (e-Timestamping) และสามารถตรวจพบได้หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง

e Tax Invoice 2 1

ข้อดีของการใช้ e-Tax Invoice  

ข้อดีของการเปลี่ยนมาใช้ระบบ e-Tax Invoice นอกจากจะทำให้การนำส่งใบกำกับภาษีมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจที่จะต้องเสียไปกับการจัดส่งเอกสารทางบัญชีและภาษี ที่แต่ละปีมีค่าดำเนินการค่อนข้างสูง อีกทั้งยังช่วยลดภาระและความซับซ้อนในการจัดการเอกสารภาษี ป้องกันการสูญหายของเอกสาร รวมถึงสามารถตรวจสอบการปลอมแปลง หรือแก้ไขเอกสารได้

นอกจากนี้ ยังเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพการดำเนินการเกี่ยวกับภาษีให้กับธุรกิจ โดยข้อมูลยังเชื่อมโยงระบบการชำระเงินกับระบบภาษีและการส่งเอกสารไปยังกรมสรรพากรเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว และยังเพิ่มโอกาสในการรับการสนับสนุนทางด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากภาครัฐ เป็นต้น

SMEs อยากใช้ e-Tax Invoice จะเริ่มได้อย่างไร

สำหรับผู้ประกอบการ หรือ SMEs ที่ต้องการใช้ระบบนี้ ควรจะเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี, ต้องไม่เป็นผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติหรืออยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติในการจัดทำส่งมอบและเก็บรักษาใบกำกับภาษี และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ และต้องไม่มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงการเสียภาษี ไม่มีประวัติการออกและใช้ใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติว่าครบถ้วนตามข้างต้นแล้ว สามารถดำเนินการยื่นขอจัดทำใบรับอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th เพื่อยื่นคำขอกรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรและตรวจสอบข้อมูล ทั้งที่อยู่ และอีเมลที่จะใช้ในการติดต่อกับกรมสรรพากร และยืนยันที่อยู่อีเมล ก่อนพิมพ์เอกสาร ก.อ.01 และลงนามแล้วสแกน ก.อ.01 และเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่ออัปโหลดเอกสาร

จากนั้นกรมสรรพากรจะตรวจสอบความถูกต้องและจัดส่งเอกสารยืนยันทางไปรษณีย์ พร้อมรหัสยืนยัน (Activate Code) เพื่อให้ผู้ประกอบการยืนยันตัวตนผ่านทางเว็บไซต์และกำหนดรหัสผ่านภายใน 15 วันทำการ จากนั้นแจ้งอีเมลที่ประสงค์จะใช้ในการส่งใบกำกับภาษี

e-Tax Service Provider ตัวช่วย SMEs

หากผู้ประกอบการ ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการและใช้ระบบ e-Tax Invoice แต่ไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหน ไม่สามารถดำเนินการในเรื่องของเอกสารได้ด้วยตัวเอง สามารถดำเนินการผ่านผู้ให้บริการ e-Tax Service Provider ที่จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการจัดการ และนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

ที่สำคัญ มีความปลอดภัย เชื่อถือได้ เพราะผ่านการรับรองด้านระบบสารสนเทศจาก ETDA ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทที่ได้รับการรับรองและพร้อมให้บริการในฐานะ e-Tax Service Provider แล้ว 19 ราย

ผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถตรวจสอบรายชื่อ e-Tax Service Provider ได้ที่เว็บไซต์ https://www.etda.or.th/th/Our-Service/e-tax-Invoice-Receipt/announce.aspx

เมื่อเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล การปรับวิธีดำเนินธุรกิจด้วยการหันมาใช้เครื่องมือที่มีความทันสมัย และช่วยลดภาระต่าง ๆ นับเป็นเรื่องสิ่งจำเป็น เพราะในระยะยาวถือเป็นการเชื่อมโอกาสที่สำคัญ ที่จะนำไปสู่การได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเกิดความได้เปรียบในการแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo