Telecommunications

ล้ำไปอีกขั้น! ทรู ผนึก ดีอี-กสทช.-ปภ. ครั้งแรกในไทยโชว์ทดสอบ แจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน 5 ภาษา

ล้ำไปอีกขั้น! ทรู ผนึก ดีอี-กสทช.-ปภ. ครั้งแรกในไทยโชว์ทดสอบ แจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน 5 ภาษา รองรับภัยทุกสถานการณ์ ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และ นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมทดสอบ กับ LIVE – Cell Broadcast Service” ผ่านเสาสัญญาณจริง ให้ผู้ใช้งานมือถือทั้งทรู และดีแทคในพื้นที่ได้รับประสบการณ์แจ้งเตือนภัยจริงครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ BNIC พร้อมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทรู คอร์ปอเรชั่นใช้เป็นศูนย์กลางบริหารจัดการกรณีเกิดภัยพิบัติ 24 ชั่วโมง

ทรู

ระบบแจ้งเตือนภัย ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า ปัจจุบันภัยที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงแค่ภัยธรรมชาติ แต่ยังมีภัยในโลกยุคใหม่ตามความก้าวหน้าของโลก เช่น ภัยไซเบอร์ รวมไปถึงภัยจากอาชญากร ดังนั้นการพัฒนาการแจ้งเตือนภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบ เพื่อการป้องกัน หลีกเลี่ยง และลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการแจ้งเตือนภัยต่างๆ ซึ่งมีอยู่ราว 14 หน่วยงานมาร่วมหารือกัน ว่าแต่ละหน่วยงานจะมีการแจ้งเตือนในระดับใด ตั้งแต่ระดับต่ำจนถึงระดับสูงสุด สำหรับการพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัยนี้ คาดว่าจะงบทั้งหมดราว 1,000 ล้านบาท และเปิดใช้งานเต็มระบบต้นปี 2568

ทรู

ส่งข้อความ 5 ภาษา ภาพ และเสียง เมื่อมีเหตุไปยังโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องพร้อมกัน

นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ถือเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นของทรู ที้ได้พัฒนาระบบ Cell Broadcast Service หรือ CBS และนำมาทดสอบการใช้จริงในวันนี้

ระบบนี้เป็นระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินที่ทั่วโลกใช้งาน สามารถส่งข้อความเตือนภัยไปยังโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้บริการทุกเครื่อง ทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยพร้อมกันทันทีและแม่นยำ และไม่ว่ามือถือจะมีการใช้งานอยู่ หรืออยู่ในพื้นที่อับสัญญาณก็สามารถรับการแจ้งเตือนได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับเหตุฉุกเฉินต่างๆ อย่างทันท่วงที

โดยระบบ CBS จะมีทั้งสัญญาณเสียงและข้อความที่แสดง (Pop up) บนหน้าจอ และรองรับ Text to Speech เทคโนโลยีช่วยเหลือที่อ่านออกเสียงข้อความทำให้มีประโยชน์ต่อการแจ้งเตือนแก่ผู้มีความบกพร่องทางการมองเห็นอีกด้วย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยเคยประสบภัยพิบัติทั้งจากภัยธรรมชาติ อุบัติภัย และภัยจากคนร้าย ส่งผลให้สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมาก อีกทั้ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ยิ่งทำให้ภัยธรรมชาติรุนแรงและถี่ขึ้น โดยปัจจุบันเราเข้าสู่ยุค “โลกเดือด” หรือ “Global Boiling” ซึ่งอาจนำมาสู่ภัยคุกคามและผลกระทบที่คาดไม่ถึง

ทรู

ด้วยความตระหนักถึงภัยคุกคามเหล่านี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศที่มีผู้ใช้บริการมากกว่า 50 ล้านเลขหมาย จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวมถึงหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา ในการพัฒนาระบบ Cell Broadcast Service หรือ CBS ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชน

โดยได้พัฒนาและทดสอบระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน หรือ Cell Broadcast ในห้องทดสอบปฏิบัติการ (Lab test) เป็นผลสำเร็จเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567  โดยมีจุดเด่นสำคัญหลายประการ ได้แก่

  • รองรับทุกภาษา: ระบบสามารถออกแบบการแจ้งเตือนได้ทุกภาษาและออกแบบส่งพร้อมกันได้ทันที โดยทดสอบแล้ว 5 ภาษา ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย
  • รวดเร็ว: สามารถส่งข้อความเตือนภัยได้อย่างรวดเร็วทันทีที่เกิดเหตุ
  • แม่นยำ: สามารถกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการส่งข้อความได้อย่างแม่นยำ
  • ครอบคลุม: สามารถส่งข้อความถึงผู้ใช้บริการทุกคนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนล่วงหน้า
  • น่าเชื่อถือ: เป็นระบบที่ได้รับการยอมรับและใช้งานในหลายประเทศทั่วโลก

ทรู

แจ้งเตือนภัย 5 ระดับ

ระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน หรือ Cell Broadcast สามารถตั้งระดับการเตือน 5 ระดับตามฟังก์ชั่นการใช้งานและร่วมมือกับภาครัฐ ประกอบด้วย

  1. การแจ้งเตือนระดับชาติ (National Alert): การแจ้งเตือนระดับสูงสุด ความสำคัญมากสุด และทุกคนในทุกพื้นที่เสาสัญญาณครอบคลุมจะทราบเหตุทันที
  2. การแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน (Emergency Alert): การแจ้งเตือนภัยพิบัติต่างๆ เช่น ภัยสึนามิ แผ่นดินไหว น้ำท่วมฉับพลัน หรือภัยจากคนร้าย เป็นต้น
  3. การแจ้งเตือนคนหาย (Amber Alert): ระบบตั้งเตือนข้อมูลเมื่อมีเด็กหายหรือคนหาย รวมทั้งการลักพาตัวเพื่อให้ประชาชนทราบข่าวเฝ้าระวังและช่วยเจ้าหน้าที่ภาครัฐสังเกตุการณ์และรายงานถ้าพบคนหายหรือคนร้าย
  4. ความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety): ระบบการแจ้งเตือนความปลอดภัยสาธารณะในพื้นที่หรือการเฝ้าระวังกรณีแจ้งคนที่อยู่อาศัย ชุมชน และผู้สัญจรผ่านพื้นที่นั้น
  5. การแจ้งเตือนทดสอบ (Test Alert): ระบบทดสอบการแจ้งเตือนตามวัตถุประสงค์เฉพาะกิจต่างๆ โดยสามารถใช้งานเพื่อทดสอบก่อนขยายผลสู่การเฝ้าระวังและแจ้งเตือนในระดับต่างๆ ต่อไป

786038

บริการจัดการแจ้งเตือนภัยด้วยศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ

นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่นยังได้พัฒนา ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ Business and Network Intelligence Center (BNIC) ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการเมื่อเกิดภัยพิบัติ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้ามากกว่า 50 ล้านเลขหมาย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบ CBS ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทรู

“ความร่วมมือของทุกภาคส่วนนี้ จะสามารถสร้างสังคมที่ปลอดภัยและพร้อมรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบ Cell Broadcast Service นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยและการเตือนภัยของประเทศไทย เราหวังว่าระบบนี้จะช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต” นายมนัสส์ กล่าวในที่สุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo