นักร้องสาว เสียงสั่นน้ำตาคลอ แฟนขออิสระคืน ยันไม่มีมือที่ 3 เสียใจถึงขั้นไปบวช

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 24 เมษายน 2567

ลาล่า อาร์สยาม เสียงสั่นน้ำตาคลอ แฟนขออิสระคืน ยันไม่มีมือที่ 3 เสียใจถึงขั้นไปบวช ไปปฏิบัติธรรม ก็ได้แง่คิดว่าถ้าเราไม่ปล่อยวาง แบกไว้ มันก็มีแต่ทุกข์

เลิกรากันไปอีกหนึ่งคู่ เป็นต้นปี 2567 ที่เหล่าคนบันเทิงก็ได้ออกมาเผยสถานะรักกันหลายคู่แล้วว่าถึงจุดที่ต้องแยกย้ายกัน รวมถึงนักร้องลูกทุ่งสาวคนนี้ก็เช่นเดียวกัน ลาล่า อาร์สยาม หรือ ขวัญนภา เรืองศรี กับ ตูน มือกลองวงของ ก้อง ห้วยไร่

ลาล่า อาร์สยาม เสียงสั่นน้ำตาคลอ แฟนขออิสระคืน ยันไม่มีมือที่ 3

ล่าสุด (23 เม.ย.) สาวลาล่า ได้ออกมาอัปเดตสภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง “สภาพจิตใจตอนนี้ยังไม่เต็มร้อยเท่าไหร่ แต่ก็พยายามที่จะเข้มแข็งทุกวัน หากิจกรรมอะไรที่มันไม่ฟุ้ง สาเหตุที่จบความสัมพันธ์ ฝ่ายผู้ชายเป็นคนขอลดความสัมพันธ์ ซึ่งเราก็ได้คุยกับเขาประมาณหนึ่ง เขาขอเป็นอิสระ อยากทำงานอิสระ ให้ลดสถานะมาเป็นเพื่อนกัน มันน่าจะอยู่กันได้ยาวกว่า

มันอาจจะหลายปัจจัย เราไม่รู้ว่าเขาไปเจออะไรมาบ้างถึงพูดคำนี้ออกมา เราก็โอเค เขาขอให้เคารพในการตัดสินใจของเขาว่า ณ ตอนนี้ถ้าใช้คำว่าเพื่อน มันน่าจะไปได้ยาวกว่าคำว่าแฟน”

คำว่าขออิสระมันทำให้รู้สึกยังไง
มันก็คิดได้หลายแบบ เราไม่ดีตรงไหน มันเกิดอะไรกับสิ่งที่เราคุยกันในระยะเวลา 1 ปี มันเกิดอะไรขึ้น ไม่มีความรู้สึกดี ๆ เหลือให้กันเลยเหรอ มันทำให้เราคิด แต่ในรูปแบบการทำงานของเรากับของเขา มันมีบางจุดที่เขาพูดมาว่า เขาไม่รู้ว่าเขาจะมากับเรายังไง แล้วพอเวลามากับเรา เขาไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง ต้องแต่งตัวยังไง มันเหมือนคนละโลก

เวลาเขาไปคอนเสิร์ตเขาจะอยู่ในพาร์ตนักดนตรี เวลาเราพาเขาไปในที่ต่าง ๆ มันจะอยู่ในโซนของคำว่าศิลปิน แล้วในงานของเรามันจะเป็นอีกแบบ เหมือนเขาทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่กับเรา

เขาอึดอัด?
น่าจะประมาณนั้น เราไม่รู้ว่าในใจเขามันมีอะไรอีกหลายอย่างหรือเปล่าที่ยังไม่พูด ที่ยังพูดออกมาไม่หมด มันเลยกลายเป็นว่าเขาขอลดความสัมพันธ์ลงดีกว่า เขาบอกว่ามันเริ่มไม่มีความสุขแล้วที่จะดำเนินต่อไป

เราง้อขอโอกาสมั้ย?
เราพยายามแล้ว เราบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องกลัว ให้เกียรติเขาอยู่แล้ว ต่อให้คุณจะอยู่ในฐานะอะไร เราพยายามบอกเขาว่าอย่าด้อยค่าตัวเอง เราอยู่ตรงนี้พร้อมที่จะปกป้อง เปิดโอกาสให้คุณอยู่แล้ว และเพื่อนของเราพร้อมที่จะเปิดโอกาสทุกอย่างให้คุณอยู่แล้ว เราก็ขอโอกาสว่า กลับมาเถอะ เขาบอกว่ามันไปต่อไม่ได้แล้ว

ระยะเวลาที่คุยเพื่อตกลงกันนานมั้ย?
ครั้งแรกคือก่อนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ แล้วครั้งที่สองคือ วันหมั้นของธัญญ่า แล้วเราก็พยายามตามไปคอนเสิร์ตของก้องหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาบอกว่าต่อให้ยังไงก็ขอยืนยันคำตอบเดิม ถามอีกร้อยครั้งก็ขอเลือกที่จะเป็นเพื่อนกันดีกว่า ไม่มีเรื่องมือสามค่ะ

พยายามหาเหตุผล?
คือเหมือนเราพยายามฝืนมากกว่า เราไม่ต้องคิดถึงอนาคตได้ไหม ไม่ต้องคิดว่าฉันคือใครว่าคือลาล่า เราใช้วันนี้ให้มีความสุขทุกวันได้มั้ย ซึ่งเขากลัวว่าเขาทำให้เราเสียใจ มันไม่เวิร์ก เขาขอยุติตรงนี้ไว้ดีกว่าที่จะทำให้เราเสียใจไปมากกว่านี้ในอนาคต เราทำดีที่สุดแล้ว ถ้าในมุมมองของเรา

เท่าที่ลาล่าอ่านคอมเมนต์ บางมุมที่เห็นเราเป็นผู้หญิงสไตล์นี้ว่าถ้าเป็นฉัน ฉันก็ไม่เอา ก็ไปบุกผู้ชายเยอะเกินไป แต่เราแค่หมั่นเขี้ยวอยากจะเล่นกับคนที่เรารักเฉย ๆ แต่อีกมุมหนึ่งที่บอกว่าถ้าไม่รักกันแล้วเข้ามาหาลาล่าตั้งแต่แรกทำไม ก็มีพลังบวกอีกมุมฟนึ่ง กับอีกส่วนที่มองว่า ก็ไปรุกเขาขนาดนั้น ถ้าเป็นฉันก็ไม่เอา

มันก็มองได้สองมุม แต่เขาไม่ได้พูดมุมนี้ของเราเวลาอยู่ด้วยกันมันมีความสุข แต่เราไม่รู้ว่าเขาไปมีความรู้สึกอึดอัดอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ตอนไหน

จัดการกับความคิดยังไง?
ตอนแรกต้องบอกว่าอยู่คนเดียวไม่ได้เลย อยู่ในที่แคบๆ ไม่ได้ อยู่บนรถก็ไม่ได้ มันคิดวกวนรู้สึกอึดอัด มีแต่จะร้องไห้ ก็เอาตัวเองออกมาอยู่กับเพื่อนเยอะ ๆ กับน้องธัญญ่า แล้วหลังจากนั้นก็ไปบวช ไปปฏิบัติธรรม เราก็ได้แง่คิดว่าถ้าเราไม่ปล่อยวาง แบกไว้ มันก็มีแต่ทุกข์ ก็ได้คุยกับธัญญ่าเยอะ กูรูด้านความรัก มุมมองเด็กวัย 20-30 เอาหลายมุมมองมาปรับจูนกับตัวเอง

สุดท้ายแล้วเราก็ได้รู้ว่า วันนี้ร่างกายของเราผลิตแต่สารมีความสุขให้กับคนอื่น วันนี้ถ้าเราแบกทุกข์ไว้มันเป็นทุกข์กับเราเอง ตอนนี้มีหลายรายการอยากจะคุยกับลาล่า

อยากให้ลาล่าพูดถึงมุมมองความรัก มันยังไม่แข็งแรงพอที่จะออกมาพูดให้กำลังใจคนอื่นให้กำลังใจตัวเอง วันนี้อยากจะแข็งแรงพอ พาตัวเองออกไปที่ต่าง ๆ ไปเจอกลุ่มคนใหม่ ไม่พยายามเอาเรื่องเก่ามาคิด แต่มันก็มีแว้บเข้ามา แต่ก็บอกตัวเองว่า ฉันจะต้องดีขึ้นทุกวันให้ได้

กลัวมีความรักครั้งต่อไปมั้ย?
กลัวค่ะ บอกเลยว่ากลัวกับความรักครั้งต่อไป แต่ไม่เข็ด คำว่ากลัวคืออะไร กลัวว่าวันนี้แค่ปีหนึ่งเรายังเป็นอย่างนี้ ถ้าวันหนึ่งเราเปิดโอกาสให้ใครเข้ามาอีก ถ้าเราคุยกับเขาไปอีก 3-4 ปี แล้วเราต้องมาเป็นสภาพแบบนี้อีก จะไหวมั้ย ถ้ามันเป็นสภาพนี้

ณ วันนี้ใครจะเข้ามา เราไม่ปิดโอกาสนะ แต่ขอเป็นการเตือนสติตัวเองเลยว่า อย่าเร็ว พิจารณาคน ค่อยๆ คุย อย่าเพิ่งให้ใจ มองเขาเริ่มจากคำว่าเพื่อน ๆ ไปก่อน

ยังเป็นเพื่อนกันได้มั้ย?
เป็นได้ค่ะ ลาล่าไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดเขา ยังเป็นเพื่อนกันได้ปกติ เพราะเราเข้าใจเหตุผลของเขา ถ้าฝืนไปมันอาจจะทำให้เราเสียใจหนักไปกว่านี้ ณ วันหนึ่งเขาอาจจะมีใคร แล้วเรามารู้ทีหลัง วันนี้เขาเลือกที่จะบอกเรา ขอบคุณเขามากกว่าที่พูดแมน ๆ กับเรา ให้มันรู้สึกว่าไม่ต้องใช้เวลาเสียเปล่าไปกับผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้รักเราแล้ว แต่ความรักของคำว่าเพื่อน มันยังยาว ยังคบกันได้อีกยาวไกล แต่เรายังไม่รู้เลยว่าถ้าเจอกัน ณ เวลานี้ เราก็ไม่รู้ว่าอาการเราจะเป็นยังไง อันนี้บอกไม่ถูก

บทเรียนความรักครั้งนี้ สอนตัวเองว่า เมื่อไหร่ที่เปิดให้คนหนึ่งที่เราไม่รู้จักเข้ามา ถ้ามอบความรักให้เขาแล้ว จงอย่าคาดหวัง ช่วงวัยรุ่นเรามีสเป๊กว่า จะต้องหล่อรวย จนเราสำเร็จในชีวิตวัยนี้แล้ว เราเลยลดทุกอย่างลงว่า วันนี้ฉันขอแค่ใครสักคนหนึ่งเดินจับมือกันไปเป็นคนที่เรารักเป็นตาเป็นยาย เป็นเพื่อนคู่คิดเป็นทุกอย่างให้กันและกัน อาจจะไม่มีงานแต่งงานเลยก็ได้

คือลดทุกอย่างลงมาหมดแล้วจนวันนี้เรารู้สึกว่า ก็เราคาดหวังในทุก ๆ อย่างจนเกินไป วันนี้ลดความคาดหวังทุกอย่างมันจะทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นมาก หลายคนบอกว่าเธอไม่รักตัวเองเลย การที่ฉันเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามา เราก็สร้างความสุขให้เราไงแต่มันไม่ใช่ กลายเป็นว่าเรารักเขามากกว่าตัวเองจริง ๆ

คอมเมนต์ที่ทำร้ายจิตใจเรา?
หลายคอมเมนต์ลบ ในหลายคลิปที่เห็นลาล่าแสดงดี๊ด๊าเกินไป การแสดงความรักแต่ละคู่ไม่เหมือนกันล่าเป็นคนจริงจัง จริงใจ ล่าคิดยังไงก็บอกตรงๆ จะไม่มีการอ้อมค้อมปิดบัง อยากให้เขาเห็นตัวจริงของเราจริงๆ มันจะได้ปรับจูนเข้ากันง่าย จะเอาคู่ที่นิ่งเงียบไม่กล้าแสดงออกมาเปรียบเทียบกันไม่ได้

ในแต่ละคอมเมนต์อยากให้เห็นใจหัวอกผู้หญิงด้วยกัน บางคนที่เจอคอมเมนต์ลบแล้วเขากำลังดิ่ง มันก็รู้สึกแย่ อย่างน้อยไม่พิมพ์ให้กำลังใจ พิมพ์หัวใจสักหนึ่งดวงมาให้เราก็ยังดีเพื่อเป็นกำลังใจให้เรา