ต้อม รชนีกร ตั้งโต๊ะแถลง เปิดใจทั้งน้ำตา ฟ้องคู่กรณี 50 ล้าน เผยพิษศัลยกรรม

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 1 กรกฎาคม 2567

ต้อม รชนีกร ตั้งโต๊ะแถลง เปิดใจทั้งน้ำตา ฟ้องคู่กรณี 50 ล้าน เผยพิษศัลยกรรม หน้าพิการผิดรูป

จากกรณีของนักแสดงรุ่นใหญ่ ต้อม รชนีกร พันธุ์มณี ได้ตัดสินใจไปทำศัลยกรรมครั้งใหญ่ในวัย 52 ปี แต่ทว่าเกิดปัญหากับทางสถาบันเสริมความงามชื่อดัง

ต้อม รชนีกร ตั้งโต๊ะแถลง เปิดใจทั้งน้ำตา ฟ้องคู่กรณี 50 ล้าน เผยพิษศัลยกรรม

ล่าสุด (1 ก.ค.) ต้อม ได้เปิดใจทั้งน้ำตา ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ฟ้องสถาบันความและแพทย์ 50 ล้านบาท โดยทางเพจ อรรถรส ได้สรุปไว้ดังนี้ “คุณต้อม รัชนีกร ออกมาแถลงข่าวที่ว่าฟ้องเจ้าของสถาบันความงาม อันนี้สรุปได้ตามที่คุณต้อมแถลงนะคะ

ทางคุณต้อมได้มีการอัดเสียงพูดตอนคุยกันไว้ เพราะคิดว่าการคุยกันแต่ละครั้งไม่ค่อยตรงกัน ถ้าไม่อัดคนจะไม่รู้ และเขาก็จำไม่ได้ว่าเขาพูดอะไร
มันมีการตกลงกันไว้ แต่ว่าเขาไม่ได้ทำตามข้อตกลง และเขาก็ละเมิดเราจากภาพตั้งแต่เริ่มแรก
ที่ตกลงกันไว้คือ รอให้พี่ต้อมสวยก่อน แล้วค่อยส่งข่าว แล้วค่อยทำเรื่อง ทำกระแส
แล้วที่มันมีประเด็นคือ วันที่ต้องถอดแมส มันเป็นคลิปวันเกิดเบิร์ดเดย์ แล้วมันไปหน้าเหมือนแอนนา ทีวีพูล แล้วมันก็เป็นกระแสเลย
จากนั้นเขาก็เอาไปพูดว่า คุณต้อมใช้ชีวิตลำบาก ถ้าหน้าต้อมไม่มีปัญหา เขาจะเอาหน้ามาให้เราผ่าไหม เขาต้องใช้สติ๊กเกอร์ผยุงไว้
พอเราเห็นเขาพูดออกมา เราก็รู้สึกว่ามันจะพูดไปเยอะเยะ นอกจากภาพที่ปล่อยหลุดออกมา ทั้งที่เราคุยกันแล้วว่าต้องตามสัญญานะ ต้องคุยกันก่อนค่อยนำเสนอ
ตอนคลิปวันเกิดที่เรายอมให้ถ่าย เพราะเราคิดว่า เขาคงเอาไปใช้รวมตอนที่เราสวยแล้ว แต่ไม่หลังวันเกิดเขาลงคลิปเลย การลงคลิปนั้น มันไม่ใช่ข้อตกลงที่คุยกันไว้ มันเลยกลายเป็นกระแส
ตอนที่คุณต้อมไปออกรายการคุยแซ่บโชว์ตนก็ไม่เคยว่าเขา แต่เขากลับว่าเราไปพูดจาทำให้โรงพยาบาลเสียหาย
หลังจากนั้นเขาก็โทรไปหาแฟนเรา บอกกับแฟนเราว่า “ไม่รู้ว่าคุณต้อมมีงานสกินแคร์” แล้วก็มาขอโทษ (ได้มีการอัดเสียงคุยไว้) โดยทางแฟนบอกว่า เขาอุตส่าห์ปูการตลาดว่าใช้ครีมเขาจนหน้าใส แต่อันนี้มีการแต่งภาพมีฝ้ากระ แล้วสินค้าจะไปไงต่อ
คุณต้อมบอกว่า “มันไม่ใช่แค่เรื่องการเจรจาไม่ลงตัว แต่มันเกิดความพิการหลังจากนี้ด้วย”
ตอนนี้ก็ได้ฉีกสัญญากันไปแล้ว เพราะเขาละเมิดเราตั้งแต่แรก เราไม่ได้คิดอะไรนะ และไม่ได้คิดจะมีปัญหากับเขา เรารอว่าเมื่อไหร่เขาจะมาคุยกับเรา
เราได้เขียนในจดหมาย ว่าบรรเทาเรื่องรูป การตกแต่งรูปบิดเบือนไปมากกว่าความเป็นจริง
คือ คุณไม่คิดที่จะเจรจา มีการโทรคุยกันแค่ครั้งเดียว กับแฟนพี่แค่นั่น ไม่มีการไลน์ ถ้ามาเจรจากับคุณต้อมโดยตรงเรื่องมันคงไม่เกิดขึ้น

สิ่งที่ฟ้องร้องตอนนี้ คือ

1.ความผิดพลาดจากการศัลยกรรม เราฟ้องเป็นคดีละเมิด แผนกคดีผู้บริโภคจำนวนทุนทรัพย์ 50 ล้านบาท

2. รูปตอนที่พี่ต้อมอยู่ในห้องผ่าตัด อันนี้คุณจะมาอ้างว่าเป็นสัญญารีวิวมันไม่ได้ การจะเอารูปไปโฆษณาหรืออะไรหากำไรจะต้องขออนุญาตจาก สบส.ก่อน

ในส่วนที่เขาบอกว่า 50 ล้านบาทเขาจ่ายได้ แล้วถ้าเขาฟ้องกลับมีเงินจ่ายไหม “ก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไร พี่อาจจะไม่มีเงิน แต่พี่มีเกียรติ พี่มีศักดิ์ศรี พี่มีความจริง” ถ้าวันนั้นมันคุยกัน เจรจากันได้ด้วยดีมันก็คงไม่มีวันนี้

ที่มีคนมาคอมเม้นท์ว่าพี่หิวเงิน หิวแสง คือ พี่อยู่ตรงนี้มา 30 กว่าปี พี่มีแสงอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเงิน คือ พี่อาจจะไม่ได้รวยเท่าเขา แต่เกิดมาในชีวิต พี่ก็ไม่ได้ลำบากนะ

ภาพที่เขาขอลง คือ ภาพที่ดึงหน้าตึง ๆ เราขอเขาเอาออกได้ไหม แต่เขาขอว่าคนกำลังสนใจ แต่ภาพที่เรารับไม่ได้เลย คือ ภาพที่เรากำลังต่อท่อออกซิเจน เพราะภาพรีวิวมันต้องเป็นภาพก่อนทำหลังทำ แต่ภาพที่ต่อท่อ มันคือผิดกฏหมาย ผิด PDPA ผิดกฏหมายอาญา เพ่ง ละเมิดสิทธิผู้ป่วย

ส่วนความอันตรายที่เกิดขึ้นหลังจากศัลยกรรม ก็คือ ฟันเหยิน แล้วมันมีฟันคุดที่นอนอยู่ คุณหมอถามว่า ทำไมเขาไม่ให้คุณหมอถอดฟันคุดซีกนั้นก่อนทำ เพราะถ้าปล่อยไว้ มันจะเป็นมะเร็ง ถุงน้ำ แล้วกรามที่ผ่า มันเหลือน้อยมาก

ปัญหาที่เจอคือ หน้ามันไม่สมมาตร ทุกวันนี้เวลาไปออกรายการ ต้องหาผมปิดหน้าไว้ตลอด ” เพราะฉะนั้นถ้าคุณหันข้างไป แล้วหน้าคุณไม่สมมาตร ด้านข้างคุณพิการคุณทำงานได้ไหมก่อน”

ก็สรุปประมาณนี้นะคะ ยังไงก็แสดงความคิดเห็นระมัดระวังด้วยเด้อ พี่ต้อมแกเอาจริงนะ”