Entertainment

‘นุสบา’ ควงลูกชายคนเล็ก เปิดตัวครั้งแรก ความหล่อระดับพรีเมียม

‘นุสบา ปุณณกันต์’ ควงลูกชายคนเล็ก เปิดตัวครั้งแรก ความหล่อระดับพรีเมียม ในรายการ คุยแซ่บShow

อีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพของวงการ นุสบา ปุณณกันต์ ที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งเธอมีรับงานละครให้เราได้ติดตามกันอยู่เรื่อย ๆ และแต่ละบทบาทที่ได้รับ เธอก็สามารถถ่ายทอดออกมาอย่างได้ดีเสมอ

ปกลูกชายนุสบา

นุสบา ปุณณกันต์’ ควงลูกชายคนเล็ก เปิดตัวครั้งแรก ความหล่อระดับพรีเมียม

ล่าสุด (4 ก.ค.) นุสบา นักแสดงตัวแม่ ควงลูกชายคนเล็ก น้องกันต์ วัย 17 ปี มาเปิดตัวครั้งแรกกับความหล่อระดับพรีเมียม เม้าท์วีรกรรมสุดแสบที่แม่นุสถึงกับกุมขมับ ! และเปิดเผยโมเม้นต์พี่น้อง น้องปุณณ์และน้องกันต์ ที่รักกันแบบสุด ๆ จนแม่อดปลื้มไม่ได้ ในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร

พี่นุสรู้สึกยังไงบ้างมีลูกชายหล่อทั้งคู่เลย ?
นุสบา : มันเร็วมากเลย เรายังเพิ่งเห็นเขากลมๆอยู่เลย แล้วอยู่ดี ๆวันหนึ่งโครงหน้าเริ่มเป็นหนุ่มขึ้น จมูกเริ่มโด่ง รูปร่างเริ่มเปลี่ยนไป จนวันนี้ยังเรียกเขาไอ้อ้วนอยู่เลย ตอนเด็ก ๆ เขาจะจ้ำม่ำ มีอยู่ช่วงนึงเขาจะกินเยอะมาก ไอติม 10 ถ้วย โดนัท 10 ก้อน นั่งกินอยู่บนเตียง แล้วพี่ก็ชอบกอด เราเป็นคนชอบเด็กมีเนื้อมีหนัง

สมัยน้องกันต์เด็ก ๆ โดนเรียกว่าอ้วนรู้สึกยังไงบ้าง ?
กันต์ : ผมเป็นเด็กก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร

ไม่ใช่แค่ความหล่ออย่างเดียว นิสัยก็เปลี่ยนอีก ?
นุสบา : เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ เขาจะชอบแกล้งมาก เขาจะแตกต่างจากน้องปุณณ์คนโต น้องปุณณ์พูดอะไรเขาก็จะยอมตั้งแต่เด็ก แต่คนนี้ตรงกันข้ามเป็นเวอร์ชั่นนึงเลย เมื่อก่อนเราทำงานด้วยกันถ่ายโฆษณาตั้งแต่เขา 3  ขวบ น้องปุณณ์ก็เหมือนกัน คนนั้นให้ทำอะไรก็ทำตาม น้องกันต์เวลาอยู่ในสตูเห็นนุสเข้ามาแกล้งร้องไห้ แกล้งทำให้เละทุกอย่าง แต่เขาคงจำไม่ได้เพราะแค่ 3-4 ขวบ

แต่เมื่อไหร่นุสออกไปจากห้องผู้กำกับสั่งให้ทำอะไรก็ทำ เหมือนกับแกล้งให้เราเสียหน้า คุณคอนโทรลลูกไม่ได้เลยหรอ อันนี้เป็นความตลกของเขาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ชอบแกล้งเราอย่างเราอยากให้เขาถ่ายรูปให้ ส่งมือถือให้ก็ถ่ายไป 10 มุม 10 ภาพ ก็เช็ครูปเป็นยังไงปรากฎมีแต่รูปตัวเองแลบลิ้นปลิ้นตาคือกดถ่ายแบบเซลฟี่ ทำเหมือนว่าถ่ายเสร็จแล้ว

นุสบา5 7

น้องกันต์จำได้มั้ยแกล้งแม่แบบนั้น ?
กันต์ : ก็จำได้ครับ ผมยังแกล้งถึงวันนี้เลย

ชี้แจงหน่อยทำไมทำอย่างนั้น ?
กันต์ : บางทีคุณแม่โพสต์อินสตาแกรมเยอะ ตอนเด็ก ๆ ผมไม่ค่อยชอบถ่ายรูปผมตลอด บางทีถ่ายด้วยกันก็ทำหน้าอะไรอย่างนี้ จะได้โพสต์ไม่ได้ครับ

นุสบา :  ไม่มี เละหมดเลยรูป มีแต่รูปน่าเกลียด ลิ้นห้อยออกมาบ้าง

ทุกวันนี้ยังแกล้งอยู่มั้ย ?
กันต์ : แกล้งอยู่ครับ

เห็นว่ามีดึงเปียดึงผมคุณแม่ ?
นุสบา : นั่นตอนเด็ก ๆ วีรกรรมเยอะมาก ไปงานอีเว้นท์กัน นักข่าวเต็มเลยกำลังสัมภาษณ์ วิ่งมาข้างหลังดึงผมดึงเสื้อให้เรากระตุก นักข่าวหัวเราะกล้องโยกไปหมด แล้วก็วิ่งหนีไปเลย คนโตเขาจะไม่มีทางทำอย่างนี้ ถ้าไปอีเว้นท์กับน้องกันต์ นุสจะต้องใส่เสื้ออีกแบบที่รัดกุมมาก แกล้งทุกช็อตทุกมุมเลย เผลอไม่ได้เลย

น้องกันต์สนุกหรอในการแกล้งแม่ ?
กันต์ : ใช่ ก็ตลกดี

แล้วแกล้งคุณพ่อบ้างมั้ย ?
กันต์ : ไม่เคยแกล้ง อาจจะนาน ๆ ครั้ง แต่ว่าไม่เคยดึงเสื้อ

มีแกล้งพี่ปุณณ์บ้างมั้ย ?
กันต์ : พี่ปุณณ์แกล้งตลอดครับ

นุสบา : แกล้งพี่ชายตลอด พี่ชายก็ยอมน้องตลอด นุสจะได้ยินตอนเขาเล่นบาสเก็ตบอลกัน ซํกพักจะได้ยินเสียงเขาร้องไห้ อันนี้ตอนเขาเด็ก ๆ นะ เพราะเขาห่างกัน 6 ปี พอร้องไห้วงแตกก็เลิก คนเล็กจะร้องเพราะแพ้ แล้วพี่ก็ต้องยอมแก้ในเกมส์หน้าเพื่อที่จะให้น้องหยุดร้องไห้

แล้วมีแกล้งอะไรพี่อีก ?
กันต์ : ผมจะชอบให้พี่โดนดุ บางทีผมกำลังเล่นแล้วแพ้ยางทีก็จะร้องไห้แล้วก็บอกว่าพี่ตีผม ให้คุณพ่อคุณแม่โกรธ พี่เขาก็รับนะครับ

ลึก ๆ กลัวพี่ปุณณ์มั้ย ?
กันต์ : ไม่ค่อยกลัวครับ ตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยดุผม เขาเป็นพี่ที่ดี

เห็นว่าชอบเอาความลับของพี่มาบอกแม่ ?
กันต์ : ก็นาน ๆ ครั้ง แต่ว่าทุกทีผมไม่บอก

นุสบา : ถ้าของพี่ชายไม่บอก เขารู้กัน ซิปปากแน่น

เวลาเขาแกล้งกันพี่นุสพี่ดุบ้างมั้ย ?
นุสบา : ก็มีดุเหมืนกัน ส่วนใหญ่พี่จะไม่ค่อย เพราะเขาห่างกันเยอะ ถ้าห่างกัน 2-3 ปีก็จะไม่ค่อย สู้กัน พอห่างกันเยอะ ๆ รู้สึกเหมือนพี่เขาเอ็นดูแล้วยอมมากกว่า

ตีลูกบ้างมั้ย ?
นุสบา : ไม่เคยเลยมีแค่โมโหมาก พูดแล้วไม่ทำ อาจจะเป็นวัยมั้ง เราพูดอย่างแต่จะทำตรงกันข้ามตลอดทุกเรื่อง เด็กผู้ชายเนอะ เริ่มหาที่ยึดเหนี่ยวไม่ได้แล้ว เอาลูกไม่อยู่ ก็มีบ้าง แต่ไม่เคยลงไม้ลงมือ เหมือนเขายั่วเรามากกว่า เพราะความที่เขาเหมือนเด็กที่ชอบสนุกที่เห็นเราปรี๊ด

กลัวคุณแม่บ้างมั้ย ?
กันต์ : ไม่ค่อยกลัว แต่บางทีตอนเขาโกรธมากผมอาจจะหยุดนิดนึง

นุสบา8 5

เลเวลาเวลาเขาโกรธมากเขาเลเวลไหน ?
กันต์ : ตะโกนอะไรยังงี้ มีอยู่ครั้งนึงโยนดินสอ ที่ผมเห็นโกรธจริง ๆ

แล้วเลเวลในการดุลูกมันขนาดไหน เหมือนในละครมั้ย ?
นุสบา : ไม่ มันเหมือนโกรธจริง ๆ จนต้องเดินหนีไปอีกห้อง

แล้วลูกก็กันขำอีก ?
นุสบา : ใช่ ๆ คือที่เราโกรธมันไม่มีความหมายเลย กลายเป็นเขาบอกตลกดี

แล้วถ้าเป็นเรื่องที่พี่นุสจัดการไม่ได้ ให้ใครจัดการ ?
นุสบา : มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนนั้นเหมือนกับให้เขาทำการบ้านแล้วเขาก็ไม่ยอมลุกมา เล่นเกมส์อยู่นั่นแหละ เริ่มดึกแล้ว เปิดประตูเข้ามาดูก็อยู่ที่เดิม ไม่รู้จะทำยังไง ทั้งดุสารพัดจะทำท่าแล้ว ก็ไม่เวิร์ค ต้องโทรหาคุณพ่อให้มาช่วยบอกเขา

นุสต้องเฟซไทม์เดินถือมาในห้องส่องให้ดูจะเป็นอย่างนี้อย่างนั้นก็เล่าไป เขาแซวนุสกลับมาว่า นี่ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆหรอ พี่ยุ่งอยู่มากเลยนะ งานเยอะมากเลยนะ พอเขาได้ยินเสียงเท่านั้นแหละ ลุกขึ้นมาทำทุกอย่างจบเสร็จ เราไม่ต้องพูดอะไรเลย คือครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาที่เราพูดมันไม่มีความหายเลยจริง ๆ

แสดงว่าคุณพ่อดุมาก ?
กันต์ : ถ้าอยากดุ เขาก็ดุครับ

นุสบา : เขาก็พูดด้วยเหตุผล ไม่ใช่ดุด้วยเสียง

กันต์ : ใช่ครับ คุณแม่เขาจะดุด้วยเสียง ไม่ค่อยมีเหตุผล

แต่น้องกันต์จะเชื่อพี่ปุณณ์ ?
กันต์ : เชื่อพี่ปุณณ์ครับ พี่ปุณณ์เขาไม่เคยดุผม จะคุยกับผมจริง ๆ สอนด้วยเหตุผล ทุกทีเขาไม่ค่อยสอนผม พอเขาสอนผมก็ต้องตั้งใจ

เรื่องอะไรที่พี่ปุณณ์เขาเป็นห่วงเรามากที่สุด ?
กันต์ : จะเป็นการเรียน คุณพ่อคุณแม่เขาก็อยากให้เรียนได้ดีอยู่แล้ว แต่ว่าพี่ผมเขาเคยผ่านมาแล้ว เขาเคยไปโรงเรียนเดียวกันกับผม ผมก็ถามเขา ครูเป็นอย่างนี้ เวลาสอบต้องเป็นอย่างนี้

ส่วนใหญ่ปรึกษาพี่ปุณณ์เรื่องอะไร ?
กันต์ : ก็ชีวิตทุกอย่าง การเรียน โรงเรียน

พี่ปุณณ์เขาปรึกษาเราเรื่องความรักมั้ย ?
กันต์ : บางทีครับ นาน ๆ ที พี่ปุณณ์เขาโตกว่าอยู่แล้วก็ไม่ค่อยได้ปรึกษา ถ้าจะให้ผมพูด ผมก็ยังไม่เคยผ่านมา

นี่รออยู่ว่าจะมีแกล้งคุณแม่บ้างมั้ยในรายการ ?
กันต์ : โตแล้ว ตอนที่แกล้งมากๆ ตอนนั้นเด็กๆ ก่อนตัวยืดก่อนฮอร์โมนจะมา หลังจากนั้นเขาก็ดีขึ้นมาก เขาก็เริ่มเห็นอกเห็นใจ เมื่อก่อนชอบเห็นเราปรี๊ดปร๊าดแล้วมีความสุข แต่เดี๋ยวนี้ไม่แกล้งแบบนั้น เวลาออกไปไหนยังไม่กลับบ้าน เขาจะเป็นคนเดียวที่โทรตาม แม่อยู่ไหน กลับมาหรือยัง กินข้าวหรือยัง โอเคมั้ย มันเป็นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยมี เป็นลูกคนเล็กที่มีความเห็นอกเห็นใจ คอยเป็นห่วง คอยถามเรา เปลี่ยนมากเลย จากที่แกล้งเราตลอด

จริง ๆ เขาแกล้งเพราะเขารักเรามากสุด อยู่ติดกับเรามากสุด ?
นุสบา : นุสอาจจะตีความว่าสมัยเด็ก ๆ เหมือนลูกคนเล็กที่เรียกร้องความสนใจ อยากให้ได้ความรักมากขึ้น อยากให้แม่สนใจเขา แต่ไม่รู้จะแสดงออกยังไง ก็เลยแหย่โน่นแหย่นี่

นุสบา2 7

จริงๆแอบเป็นเด็กสวีทเบาๆ เหมือนกัน ?
นุสบา : ใช่ ๆ ถึงแปลกว่าตอนเด็ก ๆ ไม่เป็นแบบนี้ พอโตมาเหมือนกับมีความอ่อนโยนที่เหมือนเราได้ลูกใหม่อีกคนนึงเลย

เห็นพี่น้องรักกันขนาดนี้ดีใจมั้ย ?
นุสบา : อาจจะเป็นเพราะเขาห่างกันมาก 6 ปี พี่เขาเหมือนเป็นทั้งพ่อและเพื่อนที่เขาจะปรึกษาเรื่องเรียกก็ได้ เขาก็ตอบคำถามให้ได้ เรื่องเพื่อน เรื่องแฟน เขาก็คุยกันได้ อย่างน้อยเขาก็จะมีเพื่อนปรึกษาด้วย ก็แบ่งเบาเราไปได้เยอะ

เห็นว่าตอนที่พี่ไปเมืองนอก น้องทนไม่ได้เลย ต้องให้บินตามไปเลย ?
นุสบา : ใช่ มีอยู่ช่วงนึงตอนเด็ก ๆ น้องปุณณ์ เขาไปเทอมนึงเป็นซัมเมอร์ ไปประมาณเดือนนึง ที่เขาจะไม่ได้เจอกัน เขาร้องให้เลยนะคิดถึง เราต้องซื้อตั๋วพาไป ไม่งั้นเรากลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าพี่เขาหายไปไหน เคยเป็นคนที่เขาไว้ใจที่สุด วันนี้ไม่มี ไม่อยากให้เขาเหงา ก็เลยพาไปให้เขาเห็น เวลาขากลับนี่เศร้ามาก เวลาต้องแยกกลับเพราะเราต้องกลัยแล้วพี่เขาต้องเรียนต่อ ก็ซึมเลย

น้องกันต์จำความรู้สึกตอนนั้นได้มั้ย ?
กันต์ : ก็จำได้อยู่ครับ ตอนโตขึ้นมาเด็ก ๆ ผมจะติดพี่มาก ผมดูหนัง เล่นเกมส์กับพี่ทุกอย่าง ไปโรงเรียนด้วยกัน พอเขาไปผมก็ร้องไห้ ผมก็คิดถึงครับ

ตอนนี้พี่ปุณณ์อยู่ที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด ?
นุสบา : ใช่ เพราะเขาเป็นเอ็กซ์เทิร์น ปี 6 แล้ว จังหวัดจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามที่เขาจับฉลากกัน พออินเทิร์นก็อยู่ รามาฯ พอเอ็กซ์เทิร์นก็จะถูกส่งออกไป พูดง่ายๆเหมือนฝึกงาน ให้ไปอยู่ที่จังหวัดนี้ จังหวัดนั้น เวียนไปเรื่อย ๆ ที่ละ 3 เดือนก็ไม่ได้กลับบ้านเลย เพราะต้องอยู่หอที่โน่น ทำงานที่โน่นแล้วก้รักษาจริงเลย ก็หนักเหมือนกันแล้วเราไม่ได้เจอหน้าเขาเลย

ไม่ชอบวงการบันเทิงเหมือนคุณแม่บ้างเหรอ ?
กันต์ : ไม่ครับ ไม่ชอบ

เห็นว่าทุกวันนี้มีโครงการช่วยเหลือคนด้วย ?
นุสบา : ใช่ อันนี้ก็เป็นเรื่องแปลกของเค้าอีกเรื่องหนึ่ง บังเอิญได้ไปต่างจังหวัดกันพ่อแม่ลูก ไปทางใต้ที่พังงา เขามีโอกาสได้เข้าไปที่โรงเรียนหนึ่ง ซึ่งเราก็เพิ่งรู้ว่าโรงเรียนจะมีเด็ก ๆ ประมาณ 100 กว่าคน เราเองก็อยากให้เขาได้รู้จักการช่วยเหลือสังคม ได้รู้จักการแบ่งปันทำตัวให้มีประโยชน์ต่อสังคม ก็พาเขาเข้าไปดูและซื้อของแจกเด็ก ๆ เป็นลูกบอลกับรองเท้า

กันต์  : คุณพ่อเค้าเคยไปออกงานที่พังงา โรงเรียนวัดบ้านม่วง ผมก็ชวนเขาไปค้าง ผมชอบเตะบอล เอาลูกบอลไปให้เขา เด็กบางคนเขาอาจจะซื้อไม่ได้ พอผมไปเจอกับน้อง ๆ เจอกับครูใหญ่ ผมคุยกับน้องๆเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้กินข้าวเที่ยง เขากลับบ้านไปกินข้าวเย็น เพราะเด็ก ป.6 ขึ้น โรงเรียนเขาจะไม่จ่ายค่ากินข้าวตอนเที่ยง เขาต้องเอาตังค์ซื้อเอง แล้วเขาก็ไม่ค่อยมีอาหารกิน ผมก็เลยเปลี่ยนจากเตะบอล

การให้เด็กกินข้าวมีความสำคัญมากกว่า ผมคุยกับคุณพ่อแล้ว เราจะเอาไก่ เป็ด ซักร้อยตัวไปให้เขา ให้เด็กเลี้ยง  เด็กได้เรียนเรื่องการทำเกษตรกรรม เพราะที่นั่นเขาก็มีสอนเกษตรกรรมอยู่แล้ว ผมก็ให้เด็กเขาเรียนไก่ด้วยแล้วเขาก็ได้ไข่จากไก่ 100 ตัว เขาจะได้ไข่ซัก 70 ฟอง ให้เขากินไข่เจียว

หรือเขาจะมาทางสายการเมืองเหมือนคุณพ่อ ?
นุสบา : คงไม่หรอก เหมือนเขาออกมาเองว่าถ้าอย่างนั้นก็ควรจะแบ่งปัน ก็มีคนถามเขาว่า ถ้างั้นก็เอาเงินไปบริจาคเขาซิ เขาก็บอกว่าถ้าให้เงินไปถ้าหมดแล้วทำอะไรต่อ ต้องให้เขารู้จักพึ่งพาตัวเองได้ ถ้าเขามีไก่ ไข่เอาไปขายได้ ก็สามารถเอาเงินมาซื้อข้าวต่อยอดได้ ไก่ก็จะออกไข่ไปเรื่อย ๆ มีลูก พัฒนาต่อไป เป็นโครงการเกษตรพอเพียง เราก็เลยสนับสนุน ที่พังงาอาจจะเป็นโรงเรียนแรกที่เขาคิดเอง

ถ้ามีโอกาสอยากชวนให้คนโน้น คนนี้ ทำแบบเราก็ได้ ไม่ต้องมาผ่านเราหรอก เด็กน่าสงสารจริง ๆ รองเท้ายังไม่มีใส่เลย เดินเท้าเปล่า ข้าวกลางวันน้องไม่ได้กิน กีฬาก็เล่นเท้าเปล่า ลูกบอลก็มีไม่กี่ลูก เราก็เลยคิดว่าถ้าในโรงเรียนเขาจัดให้เด็กมาทำประโยชน์ มาหัดเลี้ยงไก่ก็ได้ มาทำเกษตรแบบพอเพียง ๆ เล็ก ๆ หลังโรงเรียนเลิก เด็กก็จะโตกันมาเห็นคุณค่าของสิ่งที่เขาสร้างมา โดยที่น้องกันต์เขาเริ่มที่นี่ก่อน ถ้ามีโอกาสก็อยากทำต่อ ๆ ไป

นุสบา3 5

นุสบา6 5

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo