POLITICS-GENERAL

‘วิษณุ’ แถลงแล้ว ให้ ‘บิ๊กต่อ’ กลับนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. ส่วน ‘บิ๊กโจ๊ก’ รอก่อน

“วิษณุ” แถลงแล้ว ให้ “บิ๊กต่อ” กลับนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. ส่วน “บิ๊กโจ๊ก” รอคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมสอบก่อน ชี้ชัดมีขัดแย้งรุนแรง

นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 119/2567 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2567 โดยสอบทั้งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร

นั่ง

โดย นายวิษณุ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงผลการสอบสวนที่คณะกรรมการเสนอเรื่องให้นายกรัฐมนตรีทราบ และเห็นว่าควรชี้แจงต่อสาธารณะ โดยสรุปได้ความว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวการขัดแย้งรุนแรงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานใหญ่ของกระบวนการยุติธรรมทำให้ประชาชนไม่มั่นใจ ไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น นายกฯ จึงตั้งกรรมการสอบทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย เพื่อประมวลความเป็นมาและแก้ไข โดยกรรมการมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ เป็นประธาน ร่วมกรรมการอีก 2 คน

คณะกรรมการตั้งอนุกรรมการมาอีกหลายชุด สอบพยาน 50 กว่าคน ในจำนวนนี้ได้ให้การสนับสนุนทั้งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ใช้เวลา 4 เดือน สรุปได้ดังนี้

1. ผลการตรวจสอบพบมีความขัดแย้ง และความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นจริง มีความขัดแย้งในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับสูง กลาง เล็ก ทุกฝ่าย ไม่ว่าเป็นเหตุบังเอิญหรืออะไรก็แล้วแต่ กลายเป็นคดีความ เรื่องร้องเรียนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

2. เรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวพันกับบุคคบล 2 คน คือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทีมงานก็พลอยเกิดความขัดแย้งไปด้วย คดีที่เกี่ยวพันกับบุคคลเหล่านี้ ก็คือคดี 140 ล้าน หรือคดี เป้รักผู้การฯ เท่าไหร่ คดีกำนันนก คดีมินนี่ คดีพนันออนไลน์บีเอ็นเค มีคดีย่อยอีก 10 กว่าคดีตามสน.ต่างๆ และศาลในคดีอาญาทุจริต ภาค 7 และส่วนกลาง ความขัดแย้งบางเรื่องเพิ่งเกิด บางเรื่อง 10 ปีมาแล้ว จนเกิดเป็นคดีเหล่านี้ขึ้นมา

3. เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องส่งเรื่องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องรับผิดชอบ บางเรื่องส่งให้หน่วยงานยุติธรรม ตำรวจ อัยการ ศาล

4. บางเรื่องเกี่ยวกับองค์กรอิสระ ป.ป.ช. รับไปดำเนินการแล้ว คดีทั้งหมดมีเจ้าของรับดำเนินการแล้ว ไม่มีคดีตกค้างที่ตร. แต่อาจมีตกค้างที่สน. มีดีเอสไอ ป.ป.ช.

5. ตัวพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เนื่องจากได้รับคำสั่งให้กลับ ตร. เมื่อ 18 เมษายน เดิมเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ทั้งสองถูกคำสั่งสำนักนายกฯ มาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ แต่วันที่ 18 เมษายน ได้ส่งตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับไปำรวจ ในตำแหน่งหน้าที่เดิม แต่ในวันนั้นมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

พล...ต่อศักดิ์ ยังไม่ได้กลับ จึงเห็นควรส่งกลับไปให้ดำรงตำแหน่งเดิม เพราะไม่มีอะไรสอบสวนอีกแล้ว ให้กลับไปดำรงตำแหน่งผบ.ตร.ตามเดิม ส่วนคดีความก็ดำเนินไปตามสายงาน

dFQROr7oWzulq5Fa5LRJkMtFglfpUzHHdTx6x7IldJxoKo2yDl3s5j0rlXLXaZwCMwd

ส่วนกรณี พล...สุรเชษฐ์ ที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน คือสั่งตามแบบที่เคยสั่งในอดีต ตามพ...ตำรวจแห่งชาติ พ..2505 แต่ในฉบับใหม่ พ..2565 เพิ่มมาตราว่าในกรณีที่การสั่งให้ตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ไปกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของบุคคลนั้น จะต้องทำตามคำแนะนำหรือเสนอแนะ ปรากฎว่า วันที่ 18 เมษายน มีคำสั่ง 3 คำสั่งติดต่อกัน

  1. เรียกกลับตร.
  2. ตั้งกก.สอบวินัย
  3. การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที

ซึ่งเป็นปัญหา เนื่องจากเรื่องของพล...สุเชษฐ์ ไม่ได้ผ่านคณะกรรมกาสอบสวน จึงส่งหารือกฤษฎีกาโดยมีมติ 10 ต่อ 0 เห็นว่าการให้ออกจากราชการไว้ก่อนดังกล่าว กระทบต่อสิทธิหน้าที่ต่างๆ ดังนั้น สถานภาพของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทาง สลค.ต้องตรวจสอบว่า มีการทำถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ และต้องรอคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับคดี “เป้รักผู้การเท่าไร เป้เขียนมา” เกิดจากที่ ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี แจ้งข้อหา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส.ภ.จว.ชลบุรี ที่ก่อเหตุร่วมกันตบทรัพย์ผู้เสียหาย ในคดีเว็บพนัน และรีดเงินรวม 6 ครั้ง กว่า 140 ล้านบาท

โดยจับกุม พลตำรวจตรี กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมพวกอีกรวม 9 คน จึงเกิดเป็นลั่นวลีเด็ดเป้รักผู้การเท่าไร เป้เขียนมา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo