ย้อนเส้นทางชีวิต หมอกฤตไท เจ้าของเพจสู้ดิวะ อาจารย์แพทย์อนาคตไกล ต่อสู้มะเร็งระยะสุดท้ายก่อนจากไป
เดินทางไปในที่ไกลแสนไกลอย่างไม่มีวันกลับ โซเชียลได้ออกมาร่วมไว้อาลัยแด่การจากไปของ คุณหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล หรือเจ้าของเพจ สู้ดิวะ หมอป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ที่ก่อนหน้านี้ได้บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้กับโรคมะเร็งปอด จนกระทั่งล่าสุด (5 ธ.ค.) คุณพ่อไทภัทร ธนสมบัติกุล คุณพ่อของหมอกฤตไท ได้แจ้งข่าวเศร้าการจากไปของลูกชาย พร้อมระบุข้อความสั้น ๆ ว่า “เดินทางปลอดภัยครับ ลูกชาย”
- คุณพ่อไทภัทร โพสต์ บทส่งท้าย จากคุณหมอกฤตไท
- ดาราหนุ่มเพื่อนร่วมรุ่น อาลัย หมอกฤตไท ได้ใช้ชีวิตคุ้มค่า และมีความหมายให้กับโลกใบนี้มาก
- ย้อนประโยค คุณพีม พูดถึง หมอกฤตไท ในวันแต่งงาน ไม่ว่าจะจบยังไง ตอนนี้โชคดีที่สุดแล้ว
ย้อนเส้นทางชีวิต หมอกฤตไท สู้ดิวะ อาจารย์แพทย์อนาคตไกล
สำหรับ คุณหมอกฤตไท หรือ นายแพทย์กฤตไท ธนสมบัติกุล ปัจจุบันอายุ 29 ปี จบมัธยมจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งหลังจากเรียนจบ คุณหมอกฤตไทได้ศึกษาต่อเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัวเป็นเวลา 3 ปี
ขณะที่เรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง คุณหมอกฤตไท ตัดสินใจเริ่มเรียนอีกด้านหนึ่งไปด้วยกันคือ ระบาดวิทยาคลินิก (Clinical Epidemiology and Clinical Statistic) เกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วย ด้วยการสร้างผลงานวิจัย ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และสถิติ
นอกจากนี้ คุณหมอกฤตไท ยังได้เรียนวิศวกรรมศาสตร์ต่อในระดับปริญญาโทด้านวิทยาการข้อมูล ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อต่อยอดแนวคิดทางธุรกิจ การแก้ปัญหา และการจัดการข้อมูลที่สำคัญในโลกอนาคต
หลังจากที่เรียนจบเฉพาะทาง คุณหมอกฤตไทถูกบรรจุเข้าทำงานเป็นอาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีความรู้ความสามารถจนได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม CE (Clinical Epidemiology) ร่วมกับอาจารย์อีกหลายท่าน
ด้านชีวิตส่วนตัวต่าง ๆ ของ คุณหมอกฤตไท ปกติแล้วเป็นคนที่ชอบเล่นบาสเกตบอล ดูแลสุขภาพ ไม่สูบบุหรี่ วางแผนซื้อบ้านและแต่งงานกับคนรัก กระทั่งเมื่อเดือนตุลาคม 2565 คุณหมอกฤตไท สังเกตถึงความผิดปกติของอาการไอของตัวเอง จึงเข้ารับการตรวจ และพบว่ากำลังป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 ซึ่งไม่สามารถผ่าตัดเพื่อรักษาให้หายขาดได้ ปัจจัยเดียวที่เป็นไปได้คือภาวะฝุ่น PM2.5 ที่รุนแรงในจังหวัดเชียงใหม่
หลังเข้ารับการรักษา คุณหมอกฤตไทจึงตัดสินใจเปิดเพจ “สู้ดิวะ” และบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 265 มีคนเข้าไปร่วมแสดงความเห็น ให้กำลังใจ ถูกแชร์จำนวนมาก จนกลายเป็นข่าวโด่งดังขึ้นมา จากนั้น นพ.กฤตไท ได้เขียนหนังสือ “สู้ดิวะ” ขึ้นมา เพื่อแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ
จนกระทั่งผลของการรักษาเริ่มตอบสนองเมื่อช่วงต้นปี 2566 ก้อนใหญ่ที่ปอดขวาเล็กลง ก้อนเล็กที่ปอดซ้ายก็หายไปหมด ร่างกายแข็งแรงกว่า 3 เดือนก่อน อาการป่วยเริ่มดีขึ้นตามลำดับ สามารถกลับไปออกกำลังกายได้ และได้กลับไปสอนนักศึกษา จึงเริ่มวางแผนที่จะกลับไปใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป มีภาพการเดินทางไปต่างประเทศ และใช้ชีวิตกับครอบครัว
แต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็ได้มีออกมาแจ้งข่าวอีกครั้งว่าอาการไม่ค่อยดีนัก มะเร็งมีการลุกลามไปทั่วร่างกาย ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติเหมือนเก่า และได้จูงมือแฟนสาว คุณพีม เข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566
ก่อนที่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 คุณหมอกฤตไท ก็ได้ออกมาแจ้งข่าวเศร้าผ่าน เฟซบุ๊ก Krittai Tanasombatku ว่า “ผมคงอยู่อีกไม่นานแล้ว ใครมีอะไรอยากจะบอกผม เชิญได้เลย ผมคิดว่าน่าจะไปช่วงกลางเดือนหน้า จากนั้นไว้เจอกันใหม่นะครับ ณ ตอนนี้ผมพิมพ์ได้เท่านี้ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และขอโทษที่ทำให้ใครไม่พอใจ”
และวันที่ 8 พฤศจิกายน คุณหมอกฤตไท ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง โดยระบุว่า “แพ้สุดทุกทางแล้วว่ะ กลับไปรอที่บ้าน หรือ นอนรอกลับบ้านที่นี่ดี” แต่ทำการปิดคอมเมนต์ ห้ามไม่ให้มีการแสดงความคิดเห็นใด ๆ และในวันที่ 5 ธันวาคม 2566 คุณพ่อไทภัทร ธนสมบัติกุล คุณพ่อของหมอกฤตไท ได้แจ้งข่าวเศร้าการจากไปของลูกชาย พร้อมระบุข้อความสั้น ๆ ว่า “เดินทางปลอดภัยครับ ลูกชาย”
ขอบคุณ : ch3plus.com
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หาดูยาก! หนุ่ม สันติสุข เปิดโฉมหน้าลูกชายคนโต น้องโฟกัส หล่อถอดแบบพ่อมาเลย
- ไว้หนวดแล้ว! ‘เวียร์ ศุกลวัฒน์’ หวงลูกสาว ‘น้องวิริน’ หนักมาก รับคุยเรื่องเบบี๋คนที่ 2
- ‘ดรีม อภิชญา’ เคลียร์สเตตัสหัวใจ ‘ก้อย อรัชพร’ ว่างไหม ‘ไมค์ พิรัชต์’ จีบเพื่อนหรือเปล่า?