General

‘บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก’ ควงคู่แถลงสยบรอยร้าว หลัง ‘นายกรัฐมนตรี’ สั่งจบปัญหาเด็ดขาด!

“พล.ต.อ.ต่อศักดิ์-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ควงคู่สยบรอยร้าว หลัง ‘นายกรัฐมนตรี’ สั่งจบปัญหาเด็ดขาด! ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” ลั่นถือเป็นสัญญานแรกที่จะคืนความสุข ความสามัคคีในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ร่วมแถลงข่าวหลังเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ในฐานะที่ผมเป็น ผบ.ตร. กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านมาภาพที่ออกสู่ประชาชน อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องในคดีที่เกี่ยวเนื่องกันทั้งหมดกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และนายตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีเว็บพนันออนไลน์

บิ๊กโจ๊ก

“ผมเป็นคนคิดและตัดสินใจโทรศัพท์ไปหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อชวนไปพบนายกรัฐมนตรีในช่วงเช้าวันนี้ จากนั้นได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ให้รวมสำนวนคดีเว็บพนันทั้ง สน.เตาปูน และ สน.ทุ่งมหาเมฆ ไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ เพื่อความความยุติธรรม และไม่เกิดภาพของความขัดแย้งขึ้นอีก” ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้คุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาตลอด ถ้าไม่เจอก็โทรคุย ภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่อยากให้ถูกนำไปมองว่าเป็นความขัดแย้งของ 2 คน ซึ่งเกิดจากสื่อโซเชียลมีเดียทั้งสิ้น ที่พยายามปั่นให้เกิดความขัดแย้งกัน โดยหลังจากนี้หากเกิดภาพความขัดแย้งขึ้นอีกให้เข้าใจว่าเกิดจากโซเชียลมีเดีย ไม่ได้เกิดจากผมทั้งสองคน

“ผมไม่เคยคิดเตะสกัดขา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น และยอมรับว่า เครียดกับภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพราะมีปัญหาหลายอย่างเข้ามาแต่ก็พยายามประคองสถานการณ์ โดยผมเหลือเวลาราชการอีกแค่ 194 วัน เป็นการนับถอยหลังที่อยากทำทุกวันให้ดีที่สุด โดยฟางเส้นสุดท้ายที่ตัดสินใจยุติปัญหา คือ การโทรศัพท์ไปหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพาไปพบนายกรัฐมนตรี” ผบ.ตร. กล่าว

บิ๊กโจ๊ก

ทั้งนี้ ยืนยันว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังมีสิทธิ์ในแคนดิเดต ผบ.ตร. คนใหม่ ที่จะแต่งตั้งช่วงปลายปีนี้ ส่วนเส้นเงินที่ทีมทนายบิ๊กโจ๊กว่าเส้นเงินวิ่งถึงนายตำรวจยศสูงอักษรย่อ “ต.” ภรรยา พี่สาวและพี่ชาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ได้มีการสั่งให้ตรวจสอบทางลับแล้ว

ด้านพล.ต.อสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้พาผมไปพบกับท่านนายกฯ โดย ผบ.ตร. มีแนวคิดที่จะยุติความขัดแย้งในองค์กรตำรวจ วันนี้ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ ตั้งแต่ รอง ผบ.ตร. ถึงชั้นประทวนทุกคนมีผู้บังคับบัญชาคนเดียวคือ ผบ.ตร. วันนี้ท่านนายกรัฐมนตรี ผบ.ตร. และผมเองก็มีแนวคิดเดียวกัน คือเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน

“ส่วนหมายจับ หมายเรียกก่อนหน้านี้ จะเป็นกระบวนการของ ป.ป.ช. ดำเนินการ ซึ่งจะออกหมายเรียก หรือหมายจับ ก็เป็นเรื่องของ ป.ป.ช. ซึ่งผมได้อธิบายในส่วนของกระบวนการทางกฎหมายให้เข้าใจ ยืนยันว่าจะทำงานช่วย ผบ.ตร. ส่วนที่ ผบ.ตร. แถลงวันนี้เพื่อให้สังคมเกิดความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีความขัดแย้งในองกรตำรวจขึ้นอีก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

บิ๊กโจ๊ก

ส่วนกรณีที่ตำรวจ สน.เตาปูน ออกหมายเรียก พล.ต.อสุรเชษฐ์ ไปรับทราบข้อกล่าวหา ในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลักกฎหมาย ป.วิอาญา กรณี สน.เตาปูน ออกหมายเรียก ให้ผมไปรับทราบข้อหาคดีเว็บพนัน bnk มาสเตอร์ ปัจจุบันผมยังถือว่าไม่ได้รับหมาย เพราะช่วงส่งหมายผมอยู่เชียงใหม่ กระบวนการรับหมายจึงยังไม่เริ่มขึ้น โดยทุกคดีที่เกี่ยวเนื่องกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจะต้องส่งไป ป.ป.ช. โดย ผบ.ตร. ได้พูดชัดเจนแล้ว การเปิดแถลงข่าววันนี้ จึงถือเป็นสัญญานแรกที่จะคืนความสุข ความสามัคคีในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“จากนี้ผมจะขอกินข้าวกลางวันกับ ผบ.ตร. ทุกวันจันทร์ พุธ และ ศุกร์ ไม่ว่า ผบ.ตร. อยู่ที่ไหน ก็จะขอไปกินข้าวด้วย โดยต้องเสียสละเรื่องราวในอดีต ใครมีคดีก็ต้องไปแก้ข้อกล่าวหา ทุกคนต้องทำงานเต็มที่ วันนี้ถือว่าเป็นการ Set Zero ใหม่แล้ว จะไม่มีการเอาคืนกับพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีผม เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกนายกรัฐมนตรีตำหนิ และสังคมมองว่าผมก็ยังเป็นคนเดิม ส่วนตัวเหลืออายุราชการ 7 ปี วันนี้ทุกอย่างจึงต้องให้อภัย เพราะการเป็นผู้บังคับบัญชาต้องรู้จักเสียสละและให้อภัย” พล.ต.อสุรเชษฐ์ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK