General

นายกฯ สั่งบช.น. จัดตลาดนัดแก้หนี้-จัดการเจ้าหนี้นอกระบบ ให้เห็นผลใน 2 สัปดาห์

นายกฯ สั่งบช.น. เร่งจัดตลาดนัดแก้หนี้-จัดการเจ้าหนี้นอกระบบ ให้เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์ ควบคู่ปราบเว็บพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และตั้งเป้า 1-2 เดือนลุยปราบยาเสพติด

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมการแก้ไขหนี้นอกระบบ ปัญหายาเสพติด และการพนันออนไลน์ โดยมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 – 9 เข้าร่วมประชุม

นายกฯ
นายเศรษฐา ทวีสิน

จัดตลาดนัดแก้หนี้-จัดการเจ้าหนี้นอกระบบ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

เรื่องการแก้ไขหนี้นอกระบบ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ตำรวจนครบาลจัดโครงการ “ตลาดนัดแก้หนี้” โดยระบุปัญหาหนี้นอกระบบในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีปัญหาไม่ต่างกับพื้นที่ต่างจังหวัด ขอให้ตำรวจนครบาลร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกรุงเทพมหานคร จัดโครงการตลาดนัดแก้หนี้ตามเขตต่าง ๆ ขอให้หน่วยงานของรัฐ และสถาบันการเงินของรัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการปล่อยสินเชื่อให้ลูกหนี้เข้าถึงสินเชื่อได้ถูกต้องตามกฎหมาย

ขอให้เดินหน้าเร่งดำเนินการจับกุมนายทุน ผู้มีอิทธิพล และเจ้าหนี้ที่ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด รวมถึงดำเนินการจับกุมแก๊งหมวกกันน็อคทวงหนี้โหดด้วย

ทั้งนี้ นายกฯ ได้เน้นย้ำว่า การทำงานเป็นเรื่องที่ยาก เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา แต่ทุกคนต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหา โดยให้ตำรวจนครบาลจัดโครงการ “ตลาดนัดแก้หนี้” ในเขตต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์นับจากนี้ ซึ่งนายกฯ จะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าด้วยตนเอง

นายกฯ

ปราบเว็บพนันออนไลน์-คอลเซ็นเตอร์

เรื่องการพนันออนไลน์ เหยื่อแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สถานีตำรวจต่าง ๆ ได้พบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์

โดยกำชับให้ตำรวจนครบาลดำเนินการอย่างจริงจังกับมิจฉาชีพแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ รวมถึงเว็บพนันออนไลน์ต่าง ๆ ขอให้เร่งดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ใช่รับเรื่องลงบันทึกประจำวันแล้วปล่อยให้เรื่องเงียบ ไม่ติดตามความคืบหน้า

นายกฯ
นายชาดา ไทยเศรษฐ์

ตั้งเป้า 1-2 เดือน จัดการยาเสพติดเห็นผลอย่างชัดเจน

ส่วนเรื่องยาเสพติด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถิติการจับกุมพบว่า สามารถจับกุมผู้ค้าและผู้เสพยาบ้าเพิ่มขึ้นมากถึง 4 เท่า  แต่ราคายาบ้ายังเท่าเดิม แสดงให้เห็นว่ายังมีการลักลอบผลิตยาบ้าและมีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งสวนทางกับจำนวนที่สามารถจับกุมได้ ต่อให้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ค้าและผู้เสพได้มากเท่าไร แต่ไม่สามารถทำลายแหล่งผลิตยาบ้าและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าประเทศ ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขอให้ตำรวจเพิ่มมาตรการอย่างเข้มข้นจริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะในชุมชนแออัดขอให้เร่งลงพื้นที่ โดยตั้งเป้าภายใน 1 – 2 เดือนนี้ จะสามารถจับกุมและทลายเครือข่ายยาเสพติดให้เห็นผลอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความสบายใจให้พี่น้องประชาชน

นายกฯ

“เชื่อว่าการที่ทำทุกอย่างพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ทั้งการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของปัญหาผู้มีรายได้น้อย ทำงานเท่าไรก็ไม่เพียงพอ ทำให้หมดขวัญและกำลังใจ หันไปเสพยา ปล้น และขโมย เรื่องนี้ต้องฝากกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และความมั่นคงทำงานให้มากขึ้น แม้ตอนนี้เราจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจดี ส่วนของฝ่ายความมั่นคงก็ต้องทำงานให้เร็ว ฝากด้วยแล้วกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo