General

ตร.ขยายผลสอบไฟไหม้โกดังสารเคมี ผงะทำเป็นขบวนการ

ตำรวจขยายผลสอบไฟไหม้โกดังสารเคมี ผงะพบทำเป็นขบวนการ ตั้งบริษัทเป็นนอมินี จ่อฟันฟอกเงิน

วันนี้ (28 มิ.ย.67) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโท ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีเพลิงไหม้โรงงานสารเคมี ในจังหวัดระยอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมทั้งหมดเกือบร้อยนาย ติดตามความคืบหน้าของคดี ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับไปแล้วบางส่วน

ไฟไหม้ 1

จากการสืบสวนสอบสวนยังพบว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้ในอีกหลายพื้นที่ รวมทั้งหมด 4 จังหวัด 5 แห่งตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งโรงงานในพื้นที่ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอกลางดง จังหวัดนครราชสีมา, อำเภออุทัย อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และ อำเภอบ้านค่าย อำเภอมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยผู้ต้องหาได้นำวัตถุอันตรายของมีพิษเหล่านี้ไปเก็บไว้และมีการกำจัดที่ไม่ถูกต้อง ทั้งยังมีการลักลอบปล่อยลงในแม่น้ำลำคลอง พื้นที่เกษตรกรรมต่าง ๆ ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อชีวิตและร่างกายของประชาชนอย่างรุนแรงในพื้นที่

ด้านอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในรายละเอียด พร้อมทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือในการคัดแยกเอกสารที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก พบว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้มีการปลอมแปลงเอกสาร และตราประทับ ตั้งแต่การว่าจ้างการขนส่ง มีการปลอมเอกสารในเกือบทุกขั้นตอน ซึ่งได้ให้นโยบายไว้ว่าเรื่องนี้ต้องทำให้กระจ่างโดยเร็ว และต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความผิดเกี่ยวกับกฎหมายการครอบครองวัตถุอันตราย การกำจัดของเสีย พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม รวมถึงกฎหมายอาญา เพื่อไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น ขณะนี้มีการออกหมายจับไปแล้วในหลายข้อหา มีผู้ถูกกล่าวหาประมาณ 5 คน แต่เชื่อว่าอาจมีผู้ที่เกี่ยวข้องมากกว่า 10 คน ซึ่งจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ โดยพบว่ามีหลายข้อหา เช่น ในเรื่องการขนส่ง พบว่ามีการขนส่งโดยไม่ได้รับอนุญาตกว่าร้อยครั้ง จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาทุกครั้ง ต่างกรรมต่างวาระกัน คาดว่าจะได้รับโทษสูงสุดเมื่อขึ้นสู่ชั้นศาล สำหรับการจัดตั้งบริษัท พบว่ามีการตั้งบริษัทอย่างถูกต้อง 1 บริษัท เป็นตัวแทนนำ สิ่งผิดกฎหมายเหล่านี้ไปไว้ตามที่ต่างๆ

ทั้งมีการจัดตั้งบริษัทมาอีกหลายบริษัท ทำหน้าที่เป็นนอมินีส่วนหนึ่ง เพื่อไม่ให้มีการสืบสวนติดตามได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนว่าเป็นลักษณะของกลุ่มขบวนการ ซึ่งกำลังพิจารณาในความผิดฐานเป็นอั้งยี่ เข้าไปสู่ความผิดมูลฐานฟอกเงิน ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบจะได้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทุกราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo