Politics

‘วิษณุ’ ตรวจสอบคำชี้แจงนายกฯ ก่อนส่งศาลรธน. 3 ชั้น ยอมรับเข้มงวดเป็นพิเศษ

“วิษณุ” เผยตรวจสอบคำชี้แจงนายกฯ ก่อนส่งศาลรัฐธรรมนูญ 3 ชั้น ทั้งข้อเท็จจริง-ข้อกฎหมาย ยอมรับเข้มงวดเป็นพิเศษ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า ผมได้ตรวจดูแล้ว และได้ส่งไปให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้ดูด้วย เพราะมีหลายชั้น ตั้งแต่ยกร่าง ตรวจดู และสอบทาน รวมแล้ว 3 ชั้น ก่อนที่จะส่งขึ้นไป โดยนายกฯ ระบุว่าส่งไปศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน

วิษณุ

“ผมเป็นแค่คนตรวจเท่านั้น ไม่ได้ร่างเอง ทีมกฎหมายนายกฯ เขาเป็นฝ่ายร่าง ผมถือเป็นคนหนึ่งที่ช่วยตรวจ ที่ผ่านมาก็มีการประชุมกัน ถ้าเห็นว่ามีอะไรที่ควรจะปรับปรุงก็ปรับกันไป บางทีผมก็ยอมเขา บางทีเขาก็ยอมผม” นายวิษณุ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าสมบูรณ์แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สมบูรณ์หรือไม่ผมไม่รู้ เพราะทำได้แค่นั้น

เมื่อถามว่า เท่าที่ดูศาลรัฐธรรมนูญจะขอคำชี้แจงเพิ่มหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่ศาล ศาลสามารถทำได้ เช่น ศาลอาจจะบอกว่าที่คุณเขียนมาแบบนี้ ขอเอกสารหลักฐานมาดูหน่อย ปกติเราจะส่งเอกสารแนบไปอยู่แล้ว แต่บางทีเราอาจจะคิดว่าของแบบนี้ใคร ๆ ก็รู้ ซึ่งศาลอาจจะไม่รู้ก็ได้

เมื่อถามว่า สิ่งที่ชี้แจงไปถือว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย นายวิษณุ กล่าวว่า ทุกข้อ ซึ่งที่ผ่านมาทำตามกฎหมายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำตามขั้นตอนมาตลอด เคยทำกับรัฐมนตรีร้อยคนในอดีตอย่างไรก็ทำแบบนั้น แต่ครั้งนี้ยอมรับว่ามีเข้มงวดเป็นพิเศษ

วิษณุ

เมื่อถามอีกว่า มีข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใหม่หรือไม่ ที่ปรากฏอยู่ในสื่อขณะนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังเปิดเผยอะไรไม่ได้ อยู่ในคำชี้แจงที่ส่งไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำชี้แจงที่ส่งไปเป็นคำชี้แจงที่ฝ่ายกฎหมายให้คำแนะนำมาใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เขาร่างเสนอขึ้นมา เพราะเขาเป็นคนทำ นายกฯ ไม่ได้เป็นคนทำ ก็เอามาดูกัน ถ้าเห็นมันซับซ้อนวกวนก็ปรับปรุงแก้ไข ตัดออกบ้าง อะไรบ้าง เพิ่มบ้าง

เมื่อถามว่า คำชี้แจงรวมเป็นฉบับเดียว หรือแยก ทั้งในส่วนของนายกฯ และคณะกรรมการกฤษฎีกา นายวิษณุ กล่าวว่า รวมเป็นฉบับเดียวคือ ฉบับของนายกฯ ส่วนเอกสารมีกี่หน้ากี่ลัง ผมตอบไม่ถูก จำไม่ได้ แต่เยอะพอสมควร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK