Politics

‘ชัยธวัช’ สับงบรายจ่ายปี 68 ซ้ำซาก ซ้ำซ้อน เบี้ยหัวแตก เจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้!!

“ชัยธวัช” สับงบรายจ่ายปี 68 สูงมากเป็นประวัติการณ์ ซ้ำซาก ซ้ำซ้อน เบี้ยหัวแตก มองไม่เห็นเป้าหมายนโยบายที่ชัดเจน เร่งดัน “ดิจิทัลวอลเล็ต” เหน็บเจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้!

นายชัยธวัช ตุลาธน สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาทว่า งบประมาณรายจ่ายปี 68 นี้ ถือว่าสูงมากเป็นประวัติการณ์ โดยเงินที่ใช้จ่ายมาจากรายได้รัฐบาล และเงินกู้เป็นการจัดงบประมาณแบบขาดดุลต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว

ชัยธวัช

ทั้งนี้ การเพิ่มงบประมาณรายจ่ายของประเทศอย่างก้าวกระโดด โดยกู้เงินมาใช้เกือบชนเพดาน จะสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่นั้นต้องดูในรายละเอียด โดยเมื่อดูในรายละเอียด การจัดสรรงบปี 68 แทบจะเหมือนเดิม มีปัญหาแบบเดิม ๆ เพิ่มเติมคือ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต

“งบปีนี้มีปัญหาเดิม ๆ ไม่มียุทธศาสตร์จริง เพราะเป็นการจัดสรรงบที่มีคำพูดสวยหรู แต่ลงในรายละเอียดซ้ำซาก ซ้ำซ้อน เบี้ยหัวแตก มองไม่เห็นเป้าหมายนโยบายที่ชัดเจน ตัวชี้วัดใช้ไม่ได้ เป็นการใช้งบฯ แบบไม่สนใจผลลัพธ์ในการปฎิบัติจริง ๆ งบนี้รัฐบาลมีอำนาจเต็มในการจัดสรร แต่กลับมีโครงการใหม่เพียง 163 โครงการ ซึ่งน้อยกว่าการจัดสรรงบปี 67 มาก และยังมีเหล้าเก่าในขวดใหม่อีกจำนวนมาก” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า รัฐบาลใหม่ไม่มีวาระทางยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนว่าจะทำอะไร แต่ละกระทรวงต่างคนต่างทำ ไร้ทิศทาง ผู้นำมีข้อสั่งการเยอะแยะ แต่จะมีแนวทางในการมอบหมายให้หน่วยงานจริง ๆ หรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร เห็นอาการนายสั่งแต่ไม่บอกว่าให้ทำอะไร ข้าราชการก็จัดให้นำป้ายเดิมมาแปะป้ายใหม่ แล้วสรุปมาเป็นภาพรวมตัวเลขสวยหรูว่าตอบสนองนโยบายใหม่ ยุทธศาสตร์ใหม่

ชัยธวัช

“สิ่งที่ใหม่สำหรับวาระงบประมาณ 68 มีแค่เรื่องความพยายามที่จะผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตให้สำเร็จ เรียกได้ว่าดันทุรังขนาดที่ว่า “เจ๊งไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้” โดยงบที่จะใช้ในโครงการฯ อยู่ในงบกลางของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เป็นรายการตั้งใหม่ ชื่อ “ค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ” จำนวน 157,200 ล้านบาท คิดเป็น 18.9% ของงบกลาง” นายชัยธวัช กล่าว

ทั้งนี้ ปัญหาของงบปี 68 ที่มีลักษณะ คือ “เจ๊งไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้” เพราะรัฐบาลชุดนี้ประสบปัญหาวิกฤตความชอบธรรมทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล พอเข้ามาบริหารประเทศ จนถึงวันนี้ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าจะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ และปากท้องของประชาชนให้ดีขึ้นได้ ดังนั้น พรรคแกนนำรัฐบาลจึงเหลือความหวังเดียว คือเชื่อว่าถ้าผลักดันโครงการดิจิทัลได้ ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงที่เคยหาเสียงไว้ ความชอบธรรมทางการเมืองของรัฐบาลจะฟื้น

“โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการคิดโครงการแบบไม่รอบด้าน คิดไปทำไป กลับไปกลับมา จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน และมองว่าแนวคิดในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้อาจใช้ได้กับประเทศไทยเมื่อ 20 ปีก่อน เพราะไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริงในไทยในขณะนี้ เช่น การกระตุ้นการบริโภคโดยอัดเงินในระยะสั้น อาจไม่กระตุ้นการผลิต การจ้างงาน และจะเจอปัญหาช่องทางการเงินที่ไหลออก ดูดเงินออกจากระบบเศรษฐกิจในประเทศ” นายชัยธวัช กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK