Politics

‘ชาดา’ ตอบปมแก้กม.ต่างชาติเช่าที่ 99 ปี ลั่นอยู่ระหว่างศึกษา หากไม่ดี คงไม่ฝืน!

“ชาดา” ตอบกระทู้สดก้าวไกล ปมแก้กฎหมายต่างชาติเช่าที่ 99 ปี ลั่นอยู่ระหว่างศึกษา หากไม่ดี คงไม่ฝืน ยืนยันแผ่นดินเป็นของคนไทย จะทำอะไรต้องถามประชาชน

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (4 ก.ค.) นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส. กทม.พรรคก้าวไกล ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และเรื่องอื่น ๆ ว่า จากกรณีที่มติครม.เรื่องมาตรการช่วยบริษัทอสังหาฯ ระบายสต๊อก และการให้ต่างชาติถือครองคอนโดจาก 49% เป็น 75% และขยายเวลาให้ต่างชาติเช่าทรัพย์อิงสิทธิ จาก 30ปี เป็น 99 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมกังวลมาก เพราะเกี่ยวข้องกับอนาคตของประเทศไทยและคนไทยทุกคน

ชาดา

ในฐานะที่นายกฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาฯ เคยขายดอนโดมาก่อน ต่างชาติซื้อเยอะ น่าจะรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นายกฯ ไม่มาตอบ กลับให้นายชาดา ไทยเศรษฐ รัฐมนตรีช่วงว่าการกระทรวงมหาดไทยมาตอบแทน ดังนั้นขอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาทบทวนการกำหนดระยะเวลาทรัพย์อิงสิทธิ ตามพ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ ปี 62 และพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิกับคนต่างด้าวสามารถถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด ที่ ครม.ให้ไปแก้ หากมีความจำเป็นหรือต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับการดำเนินการนี้

ขอให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินตามขั้นตอนโดยเร็ว และการที่นายกฯ ไม่เป็นประธานการประชุม ครม. แต่ให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานประชุม ครม.แทนเพราะอะไร หรือนายกฯ กลัวโดนครหาว่ากำลังเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนในธุรกิจเดิมที่ท่านเคยเป็นอดีตผู้บริหารหรือไม่

ด้าน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า การประชุม ครม. เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนผมไม่อยู่ใน ครม. ลาประชุมไปพิธีฮัจญ์แต่ก็ศึกษาเรื่องนี้ ไม่ว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ใน ครม. เมื่อมีมติออกมาแล้วมีปัญหาก็โดนเหมือนกันหมด ซึ่งในเรื่องนี้ได้รับนโยบายจาก “รมว.มหาดไทย” มาคือให้ไปศึกษาผลได้ผลเสีย และผลกระทบ ซึ่งประเด็นทรัพย์อิงสิทธินั้นคือการเช่า ส่วนที่ให้เช่า 99 ปีนั้นไม่ใช่การเช่าเกาะฮ่องกง

ทั้งนี้เห็นว่ากฎหมายเหล่านี้ตายตัวไม่ได้ ต้องปรับปรุงและแก้ไข ได้ตามภาวะเศรษฐกิจที่บางครั้งต้องการเงินทุนจากต่างชาติ และการที่จะให้ต่างชาติมาลงทุน ก็ต้องดูว่าต่างชาติไม่ได้มาครอบครองและยึดไปหมดในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และคนไทยเราก็กลัวกับกฎหมายแบบนี้ กลัวว่าคนต่างชาติจะเข้ามาครอบงำประเทศไทยจะมาเป็นเจ้าของที่ดินจำนวนมาก แต่ในภาวะที่เราต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ต้องยอมรับว่า ต้องปรับปรุงข้อกฎหมาย ต้องศึกษาผลดี ผลเสียให้รอบด้าน

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีให้ศึกษา ไม่ได้ให้ทำเลย ซึ่งผมคุยกับกรมที่ดินว่าการดำเนินการเรื่องนี้ ต้องทำให้ชัดเจนในเหตุผล ข้อดีอย่างไรถึงให้เพิ่มเป็น 75% ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและศึกษาการครองครองประเภทไหน แบบไหนมากกว่า

ศุภณัฐ 476701
ศุภณัฐ มีนชัยนันท์

“นายกฯ สั่งให้เร่งดำเนินการ ซึ่งผมเข้าใจเรื่องความเป็นห่วงที่ต่างชาติจะครอบครองสิทธิ 75% แต่ที่ผ่านมาเคยมีมาแล้ว แต่ครอบครองได้ 5 ปี แต่ขณะนี้ยกเลิกแล้ว ยืนยันว่ายังไม่ได้ดำเนินการและทำอะไรเลย และผมไม่ทราบจริง ๆ ที่นายกฯ ให้ท่านภูมิธรรมเป็นประธาน ผมคิดว่าคงไม่เกี่ยวกับการที่ท่านทำธุรกิจด้านนี้แล้วกลัว แต่อย่างไรความเป็นจริงต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว เพราะรู้กันอยู่แล้วท่านเคยทำธุรกิจตรงนี้มา ไม่ว่าจะออกหรือเสนอโดยใคร ย่อมหนีไม่พ้น แต่วันนั้นนายกฯ คงติดภารกิจ และวันนั้นผมก็ไม่อยู่” นายชาดา กล่าว

นายชาดา กล่าวด้วยว่า นายกฯ สั่งให้แก้ไข แต่ต้องศึกษาผลดีผลเสีย อีกทั้งต้องส่งให้สภาพิจารณาลงมติ ทั้งนี้การศึกษาไม่ใช่ยกที่ดินให้ใคร หากเป็นเช่นนั้นไม่ยอม และไม่มีใครสั่งตนเองได้ ทั้งนี้มีการเสนอแก้ไขกฎหมายที่ดิน ส่วนของนิติบุคคล ตามที่พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยเสนอ ซึ่งตนเองให้ศึกษาทั้งหมด อย่างไรก็ตามผลการศึกษาต้องดูว่าสมควรทำหรือไม่ หากเป็นผลเสียจำนวนมาก นายกฯ คงไม่ฝืน แต่ตอนนี้เป็นคำสั่งให้แก้กฎหมาย เพื่อศึกษาวิเคราะห์

“เรื่องนี้ต้องชี้แจงประชาชน นายกฯ มาบริหารบ้านเมือง แผ่นดินเป็นของคนไทย จะทำอะไรต้องถามประชาชน แต่คนที่เป็นผู้บริหารต้องมีไอเดีย แนวคิดเพื่อให้เศรษฐกิจนำพาประเทศไปในทางที่ถูกที่ควร ดังนั้นไม่ต้องห่วง และต้องแยก มีวิธีคิดระหว่างเศรษฐกิจ ความมั่นคงชาติ และผลประโยชน์ของแผ่นดิน” นายชาดา กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK