Politics

วัดพลังต่อรอง ‘กลุ่ม16-ก๊วนอ๊อฟโฟร์’ แลกอุ้ม ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯสมัย 2

ทันทีที่มีชื่อ “พรรคพลังประชารัฐ” โผล่ขึ้นมาบนถนนการเมือง ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีแนวทางในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น

ข้อมูลวิกิพีเดีย ระบุชัดว่าเมื่อวันที่ 12 เมษายน  2561 นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ออกหนังสือรับจดแจ้ง จัดตั้งพรรคการเมืองให้กับ “พรรคพลังประชารัฐ” เพื่อให้ทางพรรคดำเนินการประชุมพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคและดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคในระยะไป

ความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ มีความชัดเจนมากเมื่อ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี อาสาออกโรงเองเดินเกมเจรจากับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ มาอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายเพื่อที่จะผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย

การเดินสายเจรจาของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มุ่งเป้าไปที่แกนนำการเมืองกลุ่มต่างๆ เป็นหลัก แรกๆ ดูแทบจะหาความชัดเจนไม่ได้ เพราะดูเหมือนจะมีแต่ประเภทที่แบ่งรับแบ่งสู่เสียมากกว่า แต่ทุกอย่างเริ่มมีความชัดเจนและลงตัวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เจาะไปที่ “แกนนำกลุ่ม16”ด้วยความพยายามที่จะขอเจรจาขอหารือขอพูดคุยอยู่อย่างต่อเนื่องช่วงที่ผ่านมา

ppo

พิสูจน์“แกนนำกลุ่ม16- ก๊วนอ๊อฟโฟร์

เริ่มต้นจาก “แกนนำกลุ่ม 16” ของ สนธยา คุณปลื้ม  ที่บางครั้งจะถูกปฎิเสธกันบ้างในการพบปะพูดคุย แต่ผู้ที่ถูกรับเชิญ หรือมีการพูดคุยกันก็ออกมาพูดอยู่ตลอดเวลา เสมือน “ปิดไม่มิด” ไม่เฉพาะแต่ “แกนนำกลุ่ม16 ” ยังมีแกนนำจาก ก๊วนอ๊อฟโฟร์” ผสมอยู่ด้วย

ล่าสุดเรียกว่ามีการนัดเจรจาพูดคุย พบปะกันถี่ขึ้นเพื่อเจรจาต่อรอง ถึงแนวคิดการเข้ามาอยู่ร่วมระหว่าง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์  กับ “แกนนำกลุ่ม16” และ ก๊วนอ๊อฟโฟร์” อย่างต่อเนื่อง แกนนำกลุ่ม 16 ที่เริ่มเข้ามาร่วมหัวจมท้ายตอนนี้ มีทั้ง สุชาติ ตันเจริญ  สรอรรถ กลิ่นประทุม สนธยา คุณปลื้ม รวมไปถึง สมศักดิ์ เทพสุทิน และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  

เดินสายโชว์พลังดูดส.ส.

หนึ่งใน“แกนนำกลุ่ม 16 ” บอกว่าตอนนี้อยู่ระหว่างเดินสายเจรจากับ ส.ส.ในพื้นที่ เพื่อรวบรวมนโยบายที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ เพราะเห็นว่ามีความจำเป็นต้องมีนโยบายที่ดึงดูดชาวบ้าน และต้องเป็นนโยบายที่ทำได้จริง ที่สำคัญต้องเป็นนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐเองสามารถรับได้ แต่การที่เราไปยึดโยงอยู่แต่นโยบายของเขา “มันเป็นไปไม่ได้” 

“พวกเรากำลังพูดคุยกันว่า นโยบายที่รวบรวมอยู่นั้นเขา (พรรคพลังประชารัฐ) จะทำได้ และรับได้ไหม เช่น วัวแก้จน สามารถทำได้ไหม เพราะมันเป็นเรื่องที่เราบอกกับชาวบ้านไว้แล้ว ตอนนี้ก็ต้องพูดคุยกับส.ส.ในพื้นที่ก่อน ไม่ใช่เข้าไปแล้วไม่รับนโยบายอะไรเลย อย่างนี้เราก็ไม่เอาด้วย”แกนนำกลุ่ม 16 ระบุ

หากเรามีนโยบายที่ชาวบ้านเอาด้วย หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้ว เชื่อว่าอยู่พรรคไหนเราก็ไม่กลัว ถ้าไม่มีนโยบายมันก็จบ

พวกเราเข้ามาเพราะถูกขอร้อง

“พวกเราเข้ามาเพราะถูกขอร้อง แต่ถ้าไม่เอาตามที่เราเสนอมันก็จบเหมือนกัน เราจำเป็นต้องมีนโยบายเสนอให้เขา ”

“แกนนำกลุ่ม 16” บอกด้วยว่าตอนนี้เราต้องเดินสาย พูดคุยกับส.ส.ที่ทุกภาคที่เขาสนใจ และมีแนวคิดเบื่อที่เก่า(พรรคเก่า)  หากย้ายไปอยู่พรรคใหม่แล้วมีนโยบายอย่างที่เขาต้องการมันก็ไปกันได้ นโยบาย และส.ส.มันต้องไปด้วยกัน อย่างของพรรคพลังประชารัฐ ตอนนี้มีนโยบายบัตร    สวัสดิการคนจนให้แลกรับของไม่ให้ถือเงินเลย อย่างนี้ ส.ส.เขาไม่รับ เขาไม่เอาด้วย แม้จะเป็นนโยบายที่ดี เขามองว่าในทางปฎิบัติ “ไม่เวิร์ค”อย่างนี้รับไม่ได้

เท่ากับว่าตอนนี้อยู่ในช่วงเฮียริ่งนโยบาย หากไปด้วยกันได้มันก็ไม่มีปัญหา ส.ส.ก็สอบได้จะ 100 หรือ 150 คนมันก็ไม่มีปัญหา แต่หากนโยบาย “ไม่เวิร์ค” จะหาสัก 50 คนก็สอบไม่ได้ ถ้านโยบายลงตัวมันก็ไม่มีปัญหา มีการเลือกตั้งบ้านเมืองจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน

พร้อมกันนี้ ยังย้ำว่านโยบายที่รวบรวมไว้ ก็ต้องคุยร่วมกันว่ารับได้หรือไม่ ต้องดูว่าถอยได้เท่าไหร่ คุยกันได้เท่าไหร่ มันก็เหมือนคนจีบกัน ต้องดูว่าเป็นอย่างไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรมันต้องปรับเข้าหากันอย่างไร “ตอนนี้เรียกว่ายังไม่มีอะไรลงตัว”  

 เจรจา 100 ส.ส.ในพื้นที่ร่วมทีม

ส่วนการเดินสายพูดคุยกับส.ส.ในพื้นที่เราเริ่มเดินสายคุยกันแล้ว คิดว่าภายในเดือนนี้น่าจะครบ 100 คน เราต้องให้สิทธิ์ส.ส.ในพื้นที่ เขาคิดเองว่าจะเอาอย่างไร

ส่วนเรื่องตำแหน่งคนในพรรคจะมีใครนั่งตำแหน่งไหนยังไม่ได้ระบุ ตอนนี้พรรคอยู่ไหนยังไม่รู้เลย มันอยู่ในช่วงเดินสายพูดคุยกับส.ส.มากกว่า เพื่อให้เขาตัดสินว่าจะเอาอย่างไร มีนโยบายอย่างไรที่จะเสนอรัฐบาล เสนอแล้วเขาเอาด้วยหรือไม่

ถ้าเดินไปร่วมกันแล้วส.ส.ต้องสอบได้ เมื่อก่อนเราเดินสายหาเสียงแทบตาย พอถึงเวลาพรรคก็ไม่ทำให้ “เข็ดแล้ว กลัวแล้วหาเสียงแล้วไม่ทำตาม ตอนนี้ต้องพูดเรื่องอย่างนี้ให้มันชัดเจนก่อน”  

ย้ำชัดยังไม่วางตำแหน่งในพรรค

สำหรับ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ตอนนี้ก็มาอยู่รวมด้วยกัน ส่วนเรื่องตำแหน่งคนในพรรค ใครจะพูดอย่างไรก็ว่าไป ข้อเท็จจริงมันยังไม่มีอะไรทั้งสิ้น ปัญหามันอยู่ที่ว่านโยบายกับส.ส.มันต้องไปด้วยกันก่อน ตำแหน่งยังไม่ได้ตกลง มันต้องดูตัวเราก่อนความพร้อมเป็นยังไง

ตอนนี้ทุกอย่างเรียกว่ายังอยู่ในช่วงการเจรจาพูดคุย หากไม่เป็นไปตามที่เสนอหรือ ให้ยึดนโยบายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง การรวมกลุ่มกันมันอาจจะไม่เกิดขึ้นง่ายอย่างที่คิด  ตอนนี้ขอเพียงให้แค่คนที่อยากมาอยู่ร่วมกันมองไปในแนวทางเดียวกันก่อน ที่สำคัญเขาต้องรับเอานโยบายจากพวกเราเข้าไปด้วย

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight