Stock - Finance

หุ้นสร้างบ้านลุ้นเทิร์นอะราวด์ รับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ

หุ้นสร้างบ้านลุ้นเทิร์นอะราวด์ รับ 5 มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ “เอเซีย พลัส” คาดมาตรการส่งผลบวกระยะสั้น

ราคาหุ้นกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ซึมมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปี ซึ่งเป็นกระทบมาจากยอดที่อยู่อาศัยรอโอน (Backlog) และการเปิดโครงการใหม่ที่ลดลง เนื่องจากความต้องการซื้อยังคงเปราะบาง โดยเฉพาะระดับราคา 1-3 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวราคาหุ้นมีโมเมนตัมแข็งแรง ส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในแดนบวกราว 1-3% เช่น SIRI, SC, AP, PF, PSH, ORI, SENA, LPN และ QH เป็นต้น เนื่องจากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งหมด 5 มาตรการ ดังนี้

หุ้นสร้างบ้าน รับข่าวดี

ประกาศลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน ลดหย่อนภาษีได้ 1 หมื่นบาทต่อทุกจำนวนค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 1 แสนบาท ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568

หุ้นสร้างบ้าน

โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home วงเงินโครงการ 2 หมื่นล้านบาท โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี วงเงินต่อรายสูงสุด ไม่เกิน 3,000,000 บาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี

โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Life วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท โดย ธอส. สนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.98% ต่อปี วงเงินต่อรายตั้งแต่ 2,500,000 บาทขึ้นไป

ให้การส่งเสริมกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (โครงการบ้าน BOI) ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 3 ปี

“กสิกรไทย” มองหุ้นสร้างบ้าน ช่วงราคา 3-7 ล้านบาท จะได้ประโยชน์สูงสุด

นักวิเคราะห์ บล. กสิกรไทย ให้ความเห็นเรื่องนี้ว่ามีมุมมองเป็นบวกต่อมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ต่อหุ้นอสังหาฯ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทุกบริษัท แต่ในภาพรวมเชื่อว่าบริษัทที่มีสัดส่วนการพัฒนาบ้านที่มีราคาในช่วง 3-7 ล้านบาท จะเป็นผู้ได้ประโยชน์ส่วนเพิ่มมากกว่ากลุ่มอื่น จากการขยายเพดานราคาบ้านลดค่าธรรมเนียมจาก 3 ล้านบ้าน เป็น 7 ล้านบาท

อีกทั้งยังชื่นชอบบริษัทที่มีการกระจายความเสี่ยงที่มากกว่า ผ่านการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายกว่าที่อยู่อาศัย โดยเห็นว่าหุ้น BRI, ANAN, SPALI, SIRI และ AP คือกลุ่มหุ้นที่จะได้ประโยชน์ส่วนเพิ่มมากกว่า SC, LH, QH, SENA, PSH, ORI และ LPN

“เอเซีย พลัส” คาดมาตรการส่งผลบวกระยะสั้น

มุมมองนักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ที่ออกมาจะช่วยให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมดีขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่ผู้พัฒนาแต่ละรายต้องการ และการขยายเพดานราคาบ้านจาก 3 ล้านบาท เป็น 7 ล้านบาท จะครอบคลุมที่อยู่อาศัย 80% ในตลาด ส่วนการอนุมัติวงเงินกู้เพิ่มเติมเป็นความพยายามแก้ปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อ ของธนาคารที่สูงถึง 60-70%

อย่างไรก็ตาม มองว่ามาตรการนี้เป็นแค่ปัจจัยชั่วคราว เป็นเหมือนการพยายามทำให้เครื่องยนต์ ที่ดับกลับมาติดอีกครั้ง แต่จะวิ่งได้นานแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่อง เพราะประเด็นสำคัญคือมาตรการที่ออกมานี้จะดีพอที่จะทำให้เกิดการเติบโตหรือไม่ หากจะเห็นภาคอสังหาฯ เติบโตได้จริง จะต้องสอดคล้องกับภาพเศรษฐกิจที่กลับมาเติบโตดีขึ้นด้วย จากนั้นกำลังซื้อจึงจะกลับมา

หุ้นสร้างบ้าน

เพราะฉะนั้น จึงเชื่อว่าหุ้นอสังหาฯ ในช่วงนี้จะมีความเคลื่อนไหวเป็นลักษณะเดียวกัน คือปรับตัวขึ้นได้แค่ช่วงระยะสั้น จนกว่าจะเห็นการเติบโตอีกครั้ง ทำให้กลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมนั่นคือ การซื้อเพื่อรับเงินปันผล เนื่องจากหุ้นยังมี Valuation ที่ต่ำ และโอกาสรับผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน