Stock - Finance

รู้จักมาตรการ ‘Uptick Rule’ คุมเข้ม ‘Short Sell’ เพิ่มเสถียรภาพหุ้นไทย

รู้จักมาตรการ Uptick Rule คุมเข้ม Short Sell เพิ่มเสถียรภาพหุ้นไทย

การขายชอร์ต (Short Sell) ถือเป็นประเด็นร้อนของหุ้นไทยมาตลอดทั้งปีนี้ หลายคนเชื่อว่าคือปัจจัยที่กดดันให้ตลาดหุ้นไม่ไปไหนสักที เนื่องด้วย Short Sell คือการยืมหุ้นมาขายเพื่อลงทุนในช่วงที่ดัชนีอยู่ในทิศทางขาลง โดยไม่จำเป็นต้องมีหุ้นตัวนั้นอยู่ในพอร์ต แต่สามารถไปยืมหุ้นจากโบรกเกอร์มาทำการขายออกไปก่อนได้

Short Sell เป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงอย่างรุนแรง เพราะหากราคาหุ้นปรับลดลงตามที่ประเมินเอาไว้ นักลงทุนก็จะสามารถทำการซื้อหุ้นตัวนั้นในราคาที่ต่ำกว่าตอนที่ยืมมา แล้วนำไปคืนให้โบรกเกอร์เพื่อทำกำไรได้นั่นเอง

ในภาวะที่ตลาดหุ้นไทยซบเซา ทำให้ช่วงที่ผ่านมามีหลายฝ่ายพยายามกดดันให้ตลาดหลัพทรัพย์ฯ เข้ามากำกับดูแลการทำ Short Sell ที่เชื่อกันว่ามีช่องโหว่อยู่มาก กระทั่งล่าสุดได้มีการขยับตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เพื่อดึงความเชื่อมันของนักลงทุนไทยกลับมา

shutterstock 2388692901

เตรียมบังคับใช้มาตรการ Uptick Rule

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า จะมีการหยิบมาตรการ Uptick Rule มาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป โดยจะเป็นการควบคุมการขายชอร์ตในทุกหลักทรัพย์ กำหนดให้การขายชอร์ตต้องมีราคาสูงกว่าราคาที่ซื้อขายครั้งล่าสุด

พร้อมทั้งจะมีการ ทบทวนหลักทรัพย์ที่สามารถ Short Selling ได้ คือหากเป็นหุ้นที่ไม่ได้อยู่ใน SET 100 ต้องมีมูลค่าตลาดระหว่าง 5,000-7,500 ล้านบาท และมีอัตราการหมุนเวียนเฉลี่ย 12 เดือนที่ 2% คาดว่าระเบียบนี้จะออกได้ภายในวันศุกร์ และประกาศรายชื่อหุ้นที่เข้าเกณฑ์ได้ภายในวันที่ 24 มิถุนายนนี้

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่ามาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการยกระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดทุนไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคาดว่าจะช่วยลดความผันผวนที่ผิดปกติของราคาหลักทรัพย์

โบรกฯ ชี้ Uptick Rule ช่วยหนุน SET

จากประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศใช้มาตรการ Uptick เพื่อลดความผันผวนของราคาหุ้น หลังมีปริมาณชอร์ตเพิ่มขึ้น บล.ธนชาต มองเป็นบวกต่อภายรวมหุ้นไทย คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนและลดแรงกดดันต่อหุ้นที่ถูกทำการ Short Sell สูง เช่น AOT, CPALL, ADVANC, KBANK, GULF, EA, BEM และ MINT เป็นต้น

 บล.กรุงศรี ก็มองเป็นบวกต่อหุ้นไทยเช่นกัน เนื่องจาก Uptick Rule ที่ต้องเปิด short ที่ราคา offer หรือราคาที่สูงกว่าราคาตลาด จะไม่จูงใจให้นักลงทุนเปิด Short Position หรือทำได้ยากขึ้น

ทั้งนี้ ในรอบล่าสุดที่ SET มีการใช้บังคับมาตรการดังกล่าว (13 มีนาคม – 30 กันยายน 2566) SET ปรับตัวเพิ่มขึ้น +9.5% ในช่วงเวลาดังกล่าว และสำหรับรอบนี้เองในเชิงกลยุทธ์ คาดว่าหุ้นที่มีสถานะ Short ที่ยังไม่ซื้อคืนหุ้น/ทุนชำระแล้วสูง > 1% ที่ยังเคลื่อนไหว Underperform ตลาด (YTD -8.4%) หรือมีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีโอกาสเห็นการทยอย Cover Short  ก่อนมาตรการมีผล

shutterstock 2354542231

สุดท้ายนี้ ต้องคอยจับดูว่าเมื่อมาตรการดังกล่าวบังคับใช้จริง จะส่งผล Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยมากน้อยแค่ไหน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ SET Index ได้หลุดจุดจิตวิทยา 1,300 จุดไปแล้ว และทำราคาต่ำสุดในรอบ 4 ปี

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน