“บล.ทรีนีตี้” มองหุ้นเดือนมิถุนายนผันผวน! หวั่นการเมืองในประเทศ แนะเพิ่มน้ำหนักหุ้นในกรอบ 1340-1350 จุด พร้อมคัด 3 กลุ่มหุ้นน่าลงทุน
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือนมิถุนายน 2567 คาดว่า SET Index จะแกว่งตัวผันผวนไปกับพัฒนาการของปัจจัยการเมืองภายในประเทศ ซึ่งในเดือนนี้จะมี 3 เหตุการณ์ที่สำคัญ ได้แก่
3 เหตุการณ์สำคัญที่ต้องจับตา!
- การพิจารณายุบพรรคก้าวไกลของศาลรัฐธรรมนูญ (อยู่ระหว่างรอคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา)
- การพิจารณาคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน โดยศาลรัฐธรรมนูญ (อยู่ระหว่างรอคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา)
- การที่สำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร ผิดม.112 และมีการนัดส่งฟ้องศาลในวันที่ 18 มิถุนายนนี้
อย่างไรก็ตาม หากตัดปัจจัยการเมืองออกไป จะพบว่าปัจจัยพื้นฐานล่าสุดของตลาดหุ้นไทยยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางไหนที่สำคัญ โดยประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดยังคงทรงตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน เมื่อมาประกอบกับมาตรการ Uptick rule ที่คาดว่าจะถูกบังคับใช้ได้ในเดือนนี้ ทำให้ประเมิน Downside ของ SET Index ณ ปัจจุบันเริ่มอยู่ในกรอบจำกัด
ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำนักลงทุนที่ได้เพิ่มน้ำหนักหุ้นในกรอบ 1340-1350 จุดในช่วงปลายเดือนก่อนตามที่เราแนะนำ สามารถถือครองหุ้นในส่วนดังกล่าวไว้ได้ ส่วนถ้าหากเกิดความยุ่งเหยิงทางการเมืองในเดือนนี้จนเกิดภาวะ Political discount ประเมินแนวรับสำคัญที่ไม่น่าหลุดในเดือนนี้ได้แก่บริเวณดัชนี 1300 จุด ซึ่งแนะนำใช้เป็นบริเวณแนวรับถัดไป
ประเมินกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจประจำเดือนนี้ สำหรับพอร์ตที่ต้องการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนที่บริเวณแนวรับดัชนี ได้แก่
- กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50/SET100 และ Valuation อยู่ในระดับน่าสนใจ เลือก BJC
- กลุ่ม Defensive เช่นโรงพยาบาล เพื่อป้องกันความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยการเมืองในประเทศ อาทิ BDMS, BCH, CHG
- กลุ่มส่งออกที่ยังคงปรับตัว Laggard ได้แก่ COCOCO, MALEE, PLUS, TU
ปัจจัยสำคัญที่น่าติดตามในเดือนมิถุนายน นอกเหนือจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ได้แก่
- ผลการประชุมกลุ่ม OPEC+ ในวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดทางกลุ่มมีมติขยายเวลาลดกำลังการผลิตลง 3.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงสิ้นปี 2568 และขยายเวลาลดการผลิตโดยสมัครใจอีก 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันไปจนถึงสิ้นไตรมาส 3 ปีนี้ และหลังจากนั้นจะให้ทยอยหมดอายุไปภายในหนึ่งปี ซึ่งถือว่า Bearish กว่าที่ตลาดคาดหวังไว้ ทำให้ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดิ่งลงอย่างรวดเร็วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มองเป็น Sentiment เชิงลบต่อกลุ่ม Oil & Gas ของไทยในช่วงต้นเดือนนี้
- การประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 6 มิถุนายน คาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ย Deposit facility rate 0.25% สู่ระดับ 3.75%
- การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 11-12 มิถุนายน คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย แต่น่าจับตาไปยังประมาณการ Dot plots รอบใหม่
- การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทยในวันที่ 12 มิถุนายน คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายแต่อย่างใด
- การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันที่ 13-14 มิถุนายน คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย แต่น่าจับตาว่าจะมีการส่งสัญญาณในเชิง Hawkish บ้างหรือไม่ หลังค่าเงินเยนมีความอ่อนแออย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
- รายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯประจำเดือนพฤษภาคมในวันที่ 12 มิถุนายนซึ่งอาจมีผลกระทบต่อไปยังคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ย Fed ในตลาด
- ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะระหว่างจีนกับไต้หวัน
- การประกาศใช้มาตรการ Uptick rule ของทางตลท.
- ติดตามรายละเอียดกองทุนลดหย่อนภาษีรูปแบบใหม่ ว่าจะมีการเปิดเผยออกมาภายในเดือนนี้หรือไม่ หากลักษณะเหมือนกับรูปแบบกองทุน LTF เดิม ทั้งในมิติวงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด และระยะเวลาถือครองที่สั้นลง เมื่อเทียบกับกองทุน SSF และ ThaiESG มองจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยขึ้นมาได้บ้าง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ทรีนีตี้’ คัดหุ้นเด่น 4 กลุ่มน่าลงทุนเดือน มี.ค. แนะซื้อสะสมหากดัชนีแตะ 1,370 จุด
- ‘ทรีนีตี้’ คัด 7 หุ้นเด่นน่าลงทุนรับไตรมาสแรกปีมังกร เชื่อเฟดยังไม่ลดดอกเบี้ย
- ‘ทรีนีตี้’ แนะทิศทางการลงทุนเดือนส.ค. กลุ่ม รพ.หุ้นปลอดภัย-โรงกลั่นเกาะจังหวะสวิงขึ้น
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg