เลือกหุ้นฉบับมือใหม่ : หุ้นพื้นฐานดี หน้าตาเป็นอย่างไร เลือกหุ้นยังไง ซื้อตัวไหนดีที่ไม่ต้องเจ็บตัว อ่านที่นี่เลย!
นักลงทุนมือใหม่หลายคนที่เพิ่งตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้น อย่างแรกที่พูดเป็นเสียงเดียวกันตลอด ก็คือ จะเลือกหุ้นยังไง ซื้อตัวไหนดีนะ แต่คำถามเหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะทำให้เห็นถึงความต้องการที่จะเลือกหุ้น อยากจะศึกษา ไม่ใช่ว่าจะซื้อไปมั่ว ๆ โดยที่ไม่รู้อะไรเลย สุดท้ายก็ต้องเจ็บตัวไปตาม ๆ กัน
งั้นถ้าอยากจะเริ่มต้นเลือกหุ้นเองแบบง่าย ๆ ลองเริ่มจากการค้นหา “หุ้นพื้นฐานดี” ก่อนก็แล้วกัน เพราะว่าราคาของหุ้นพื้นฐานดีมักจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาดมากนัก นักลงทุนจึงแทบไม่ต้องกังวลกับภาวะเศรษฐกิจ หรือความผันผวนของตลาดหุ้นในระยะสั้นเลย ซึ่งดูได้จากประวัติการดำเนินงานในอดีตย้อนหลัง 3-5 ปี
หุ้นพื้นฐานดี หน้าตาเป็นอย่างไร
ธุรกิจมีความได้เปรียบด้านการแข่งขัน
- ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเบอร์หนึ่งหรือเบอร์สองของอุตสาหกรรมนั้นๆ แต่ควรมีความสามารถหรือมีจุดแข็งในการแข่งขันกับคู่แข่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโต ยิ่งเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งขันน้อยราย หรือหน้าใหม่เข้ามาในธุรกิจได้ยากก็ยิ่งดี เพราะบริษัทจะมีความได้เปรียบด้านการแข่งขันสูง
กิจการเติบโตต่อเนื่อง
- บริษัทที่ดีควรมียอดขายหรือรายได้เติบโตต่อเนื่อง 3 – 5 ปี ซึ่งจะเป็นการการันตีว่าธุรกิจนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อไปได้ ยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว ที่สำคัญคือ เป็นการสะท้อนถึงวิสัยทัศน์การดำเนินกิจการในอนาคตด้วย
มีกำไรอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีปัญหาขาดทุน
- บริษัทที่ดีควรมีกำไรสม่ำเสมอในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน ตั้งแต่กำไรขั้นต้น เรื่อยไปจนถึงกำไรสุทธิ เราควรหลีกเลี่ยงบริษัทที่ขาดทุนต่อเนื่องหรือปีเว้นปี เพราะราคาจะปรับตัวขึ้นได้ยาก และอาจยังไม่มีเงินเหลือมาจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น แต่บางครั้งบริษัทก็อาจขาดทุนจากการนำเงินไปลงทุนเพิ่มเติม หรือนำเงินไปใช้หนี้ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาว จึงต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป
หนี้สินไม่เยอะ
- การมีหนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติในการดำเนินธุรกิจ แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือ การมีหนี้ระยะยาวมากเกินไป เพราะอาจมีปัญหาเรื่องการชำระหนี้ และเกิดปัญหาต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น หากวันใดขาดสภาพคล่องและไม่สามารถชำระหนี้ได้ จะเกิดปัญหาทันที
กำไรสะสมเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
- บริษัทที่บริหารงานดี มีกำไรสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะสะท้อนความสามารถในการบริหารต้นทุนการผลิต และประสิทธิภาพการจัดจำหน่ายที่ดี ทำให้กำไรต่อหน่วยสูงขึ้นตาม ก็ย่อมเป็นผลดีต่อนักลงทุน เพราะกำไรที่เพิ่มขึ้น ย่อมส่งผลต่อเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นด้วย และยังสามารถนำกำไรไปขยายกิจการให้เติบโตต่อไปได้อีก
ควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้ดี
- การบริหารจัดการต้นทุนเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะต้นทุนจะส่งผลโดยตรงต่อกำไร ซึ่งนักลงทุนสามารถดูได้จากงบกำไรขาดทุน โดยกรณีที่ยอดขายเพิ่ม แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ก็ยังพอรับไหว แต่หากยอดขายลดลง สวนทางกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น คงยากเกินจะทำใจ แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีกำลังปัญหาในการดำเนินงาน
สภาพคล่องต้องดี
- บริษัทที่ดีต้องมีเงินทุนหมุนเวียนในมือพอสมควร พูดง่ายๆ คือ มีสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน เพื่อเตรียมพร้อมในการจ่ายหนี้ระยะสั้น รวมถึงสามารถขายสินค้าและเก็บเงินลูกหนี้ได้ในระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย
ผู้บริหารต้องโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล
- ควรเลือกบริษัทที่โปร่งใส ผู้บริหารมีการดำเนินงานอย่างเปิดเผย บริหารบริษัทด้วยความซื่อตรง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ขยันให้ข่าวหรือเข้ามายุ่งกับการซื้อขายหุ้นเพื่อเก็งกำไรมากเกินไป รวมถึงไม่มีข่าวในเชิงลบบ่อยๆ
เหล่านี้คือ… คุณสมบัติเบื้องต้นของ หุ้นพื้นฐานดี น่าลงทุน หากนักลงทุนสามารถค้นหาหุ้นแบบนี้เจอ เชื่อว่านักลงทุนคงเข้าใจธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างดี แถมยังมองเห็นอนาคตอันรุ่งโรจน์ของกิจการอยู่รำไร ความฝันที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
ขอบคุณ : ตลาดหลักทรัพย์แห่ประเทศไทย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กรุงศรี’ หั่นเป้าหุ้นไทยปีนี้เหลือ 1,600 จุด อัปเดตกลยุทธ์การลงทุนที่นี่!
- การเมืองร้อนฉุดเชื่อมั่น! ‘ทิสโก้’ แนะเก็บ 7 หุ้นเด่นเข้าพอร์ต กรอบ 1,300-1,410 จุด
- ‘ทรีนีตี้’ มองหุ้นเดือน มิ.ย. ผันผวน! หวั่นการเมืองในประเทศ คัด 3 กลุ่มหุ้นน่าลงทุน
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg