Stock

‘BEM’ วิ่งไปต่อ! ขึ้นค่าตั๋ว หนุนกำไรปีนี้

BEM วิ่งไปต่อ! ปรับขึ้นค่าตั๋ว หนุนกำไรปีนี้ ขณะที่ความชัดเจนของรถไฟฟ้าสายสีส้มแรงหนุน

หุ้น BEM หรือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้ารถไฟฟ้าและทางพิเศษ ถือเป็นหนึ่งในหุ้นไทยที่มีปัจจัยบวก (Positive Sentiment) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยแรกที่เรารู้กันคือ ความชัดเจนของรถไฟฟ้าสายสีส้ม

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้องคดีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่งผลให้สัปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีความชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากการประมูลก่อนหน้านี้ BEM เป็นผู้ชนะ ซึ่งจะได้รับสิทธิก่อสร้างงานโยธาช่วงตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม) รวมถึงงานเดินรถไฟฟ้าตลอดสาย บางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)

ปัจจัยบวกต่อมาคือ การปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยให้มีผลตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ เป็นอัตราเริ่มต้น 17 บาท สูงสุด 45 บาท หรือปรับขึ้นเฉลี่ยประมาณ 1 บาท เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ของกรุงเทพฯ สูงขึ้น

BEM

ทั้งนี้ 2 ปัจจัยดังกล่าว ถือเป็นประเด็นสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นราคาหุ้น BEM ให้เดินหน้าต่อไปได้

บทวิเคราะห์ บล.พาย เปิดเผยว่า คาดกำไรไตรมาส 2 ปี 2567 ของ BEM จะเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) ตามจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และปริมาณจราจรบนทางด่วน

สำหรับปริมาณการจราจรบนทางด่วนในเดือนพฤษภาคม สามารถยืนระดับที่ 1.1 ล้านเที่ยวต่อวัน ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% YoY หรือคิดเป็น 90% ของระดับก่อนเกิด Covid-19 พร้อมยังดีขึ้นกว่าไจรมาส 1/67 ที่ 89% ของระดับก่อนเกิด Covid-19 แม้จะมีวันหยุดหลายวัน

ส่วนปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นเป็น 3.87 แสนเที่ยวต่อวัน โดยปรับเพิ่มขึ้นถึง 12% YoY ในขณะที่ปริมาณผู้โดยสารวันธรรมดาก็พุ่งแตะ 4.55 แสนเที่ยวต่อวัน

โดยแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BEM ปรับขึ้นราคาเป้าหมายเป็น 10 บาทต่อหุ้น จากเดิม 9.30 บาทต่อหุ้น หลังรวมสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้มแล้ว ซึ่งราคาเป้าหมายดังกล่าว แบ่งเป็นธุรกิจทางด่วน 5.5 บาท ธุรกิจรถไฟฟ้า 6.5 บาท ธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ 1.3 บาท เงินลงทุนใน TTW และ CKP อีก 0.9 บาท หักด้วยหนี้สินสุทธิ 4.2 บาท

บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า การปรับขึ้นค่าโดยสารอยูในประมาณของอยู่แล้ว จึงคงประมาณการอัตราการเติบโตของกําไรปีนี้ที่ 11% จากการศึกษาพบว่าการขึ้นค่าโดยสารในอดีต ส่งผลกระทบน้อยมากกับจํานวนผู้โดยสาร ทำให้เชื่อว่าการปรับขึ้นรอบนี้ จะไม่กระทบต่อรายได้ของ BEM เช่นกัน

BEM

ก่อนการปรับราคารอบนี้ ค่าโดยสารเฉลี่ยของ BEM อยู่ที่ประมาณ 27 บาทต่อเที่ยว (อิงจากการเดินทางเฉลี่ย 5-6 สถานี) ดังนั้น การขึ้นค่าโดยสาร 1 บาทต่อเที่ยว เป็นเวลา 6 เดือน จะทําให้รายได้ และกําไรเพิ่มขึ้น 81 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้และกําไรในปี 2567 เพิ่มขึ้น 0.46% และ 2% ตามลําดับ เพราะฉะนั้น คงประมาณการกําไรเอาไว้เท่าเดิมที่ 3.85 พันล้านบาท เติบโต 11% จากปีก่อน

คงคําแนะนํา “ซื้อ” หุ้น BEM และประเมินราคาเป้าหมายที่ 9.50 บาทต่อหุ้น โดยมองว่า BEM เป็นหุน Defensive ที่น่าสนใจ เพราะกําไรมีแนวโน้มเติบโตดีด้วย อีกทั้งยังมีหลายปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้นได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน