Stock

‘บล.เอเซีย พลัส’ คาดไตรมาส 3 หุ้นไทยยืนเหนือ 1,400 จุด ชู 7 หุ้นเด่น

“บล.เอเซีย พลัส” คาดไตรมาส 3 หุ้นไทยยืนเหนือ 1,400 จุดได้อีกครั้ง หลังเศรษฐกิจฟื้น กำไรบริษัทจดทะเบียนดีขึ้น พร้อมชู 7 หุ้นเด่น

บล.เอเซีย พลัส ประเมินดอกเบี้ยโลกเข้าสู่วัฏจักรขาลง แต่ดอกเบี้ยไทยยังไม่เปลี่ยน ปรับ MEYG ขึ้นยึดหลักอนุรักษ์นิยม ขณะที่การทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทจดทะเบียนดีขึ้นตามลำดับ อีกทั้งมาตรการเสริมประสิทธิภาพ ตลาดหุ้นไทย รวมถึง ThaiESG ใหม่ เข้ามาพยุงตลาดทดแทน FUNF FLOW กลยุทธ์การลงทุนในเดือนนี้แนะนำ หุ้นพื้นฐาน ESG ดี ได้แรงหนุนจากภาครัฐ AOT, CK, GUNKUL และหุ้นปันผลเด่น SIRI, ADVANC, TTB, TU

หุ้นเด่น

ช่วง 1H67 ตลาดหุ้นไทยเผชิญศึกรอบด้าน เริ่มต้นด้วยตัวเลขเศรษฐกิจตกต่ำ GDP4Q66 1.7% ลดลงต่อ GDP1Q67 1.5% รวมถึงกำไรบริษัทจดทะเบียน 4Q66 1.76 แสนล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 5 ไตรมาส และยังเผชิญสงครามตะวันออกกลางต่อเนื่อง ด้วยการเมืองไทยที่ร้อนแรง ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติไหลออก 1.1 แสนล้านบาท กดดัน SET Index ปรับตัวลง -8% และใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี

ส่วนการเริ่มต้นครึ่งหลังของปีภาพเศรษฐกิจโลกที่ดูผ่อนคลายลง จากความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย ท่ามกลางวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงเริ่มชัดเจน โดยเฉพาะช่วง 3Q67 เชื่อว่าจะช่วยลดแรงกดดันต่อ อัตราแลกเปลี่ยน หนุนให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่ SET Index จะดีขึ้นตามลำดับ จากความกังวลสถานการณ์การเมืองอาจมีแรงกดดันลดลง

ขณะที่เศรษฐกิจไทย BOTTOM OUT จากหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายภาครัฐ (G) ภาค การการลงทุน (I) รวมถึงภาคการบริโภค (C) คาดเป็นตัวช่วยให้ GDP GROWTH ไทยทยอยเติบโตเป็นขั้นบันได และประเมินกำไร งวด 2Q67 ทรงตัวในระดับ สูงมีโอกาสอยู่ในกรอบ 2.3 ?2.7 แสนล้านบาท เติบโต YOY จากฐานที่ต่ำมีแรงหนุนเพิ่มจากค่าเงินบาทอ่อน และราคาน้ำมันยืนระดับสูงหนุน TRALING P/E ค่อยๆถูกลง

ส่วน FUND FLOW ต่างชาติไหลออกจากเอเชียใต้ และไหลออกจากตลาดหุ้นไทย มากที่สุดกว่า 1.1 แสนล้านบาท อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมายังขายหุ้นไทยติดต่อกัน 26 วันทำการ เป็นการขายติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ พร้อมกับมีสัดส่วน Short Sell สูงถึง 13% -17% ของมูลค่าซื้อขาย

หุ้นเด่น

อย่างไรก็ตาม DOWNSIDE ของ SET INDEX จำกัดเช่นกัน หลังดัชนีย่อตัวลงมาจน VALUATION อยู่ในระดับที่น่าสนใจมาก ณ SET INDEX ที่ 1,300 จุด มี P/E67F ที่ต่ำเพียง 14.2 เท่า (ต่ำกว่า -1SD), PBV 1.22 เท่า (ต่ำกว่า -2SD) และ DIVIDEND YIELD สูง ถึง 3.5% (สูงกว่า+1SD)

ส่วนแรงผลักดันดัชนีในช่วงไตรมาสที่ 3 ประกอบด้วยการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ, รอรับเม็ดเงินจากกองทุน THAIESG ใหม่เข้ามาหนุน และเริ่มเพิ่มเสถียรภาพจากตลาดหลักทรัพย์ อย่าง UPTICK คาดจะช่วยหนุนให้ ดัชนีค่อย ๆ ทยอยฟื้นตัวกลับ ขึ้นไปเหนือ 1,400 จุด อีกครั้งได้ในไตรมาสนี้

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นพื้นฐานดี ได้เม็ดเงิน THAIESG ใหม่ เข้ามาหนุน กับ 2 ธีมหลัก หุ้นได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ AOT, CK, GUNKUL และหุ้นปันผลระหว่างกาลสูง SIRI, ADVANC, TTB, TU

ที่มา : อินโฟเควสท์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo