Stock

SCB ตัดขาดทุน Robinhood ทนเจ็บช่วงสั้น แต่จะดีระยะยาว

จากกรณีที่บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ออกแถลงการณ์ยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน โรบินฮูด (Robinhood) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป หลังมีผลประกอบการขาดทุนมาตลอดช่วง 4 ปี

Robinhood เป็นแอปพลิเคชันรับคำสั่งซื้ออาหาร (Food Delivery) และบริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านสะดวกซื้อ (Mart Delivery) สัญชาติไทย ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นโปรเจกต์ CSR ของทาง SCBX เพื่อช่วยร้านค้ารายย่อย และไรเดอร์ในช่วงโควิด โดยไม่คิดค่า GP (Gross Profit) กับร้านค้า

SCB

จุดประสงค์ของ Robinhood คือทำให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์ในธุรกิจส่งอาหาร ตั้งจุดยืนเป็นธุรกิจที่เน้นคืนกำไรให้สังคม แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา เพราะอย่าลืมนี่คือธุรกิจที่ต้องมีผลกำไรบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อยู่ไม่ได้ ซึ่งงบ 4 ปีย้อนหลัง (2563-2566) Robinhood มีผลขาดทุนรวมไปแล้วกว่า 5,500 ล้านบาท

เพราะฉะนั้น การตัดสินใจปิดตอนนี้ อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะหากยิ่งมีคนใช้แอปมากเท่าไร ก็ยิ่งขาดทุนบานปลายมากเท่านั้น แม้ความตั้งใจจะเป็น CSR ก็ตาม แต่ตัวเลขที่มหาศาลแบบนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก

บทความนี้ อยากจะพามาวิเคราะห์ในแง่มุมของการลงทุน ในกรณีที่บริษัทยอม Stop Loss ธุรกิจ Robinhood จะเป็นผลดีหรือผลเสียต่อหุ้น SCB มากกว่ากัน

บล.เคจีไอ (KGI Securities) มองว่า SCB จะทนเจ็บช่วงสั้น แต่จะดีในระยะยาว โดยมี 2 ประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้

  • ค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปิด Robinhood

คาดว่า SCB จะมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปิด Robinhood ที่ดําเนินการภายใต้บริษัท Purple Venture (บริษัทลูกที่ SCB ถือหุ้น 100%) โดยจะมีค่าใช้จ่ายและกระทบกําไรในไตรมาส 2/67 และประมาณการกําไรเต็มปี

ประเมินว่าการที่ Purple Venture มีผลขาดทุนจากการดําเนินงานมากถึง 2,200 ล้านบาทในปี 2565 และสินทรัพย์มีขนาด 3,500 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงผลการดําเนินงานของ Robinhood เป็นหลัก จึงคาดว่าผลขาดทุนจากดําเนินงานใน 2/67 จะอยู่ที่ 750 ล้านบาท และจะมีการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวของโครงสร้างพื้นฐานของแอปประมาณ 1,500-1,800 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง

  • ความกังวลต่อการสะดุดของกลยุทธ์แผน 5 ปี

กลุ่ม SCB มีแผนที่จะสร้างการเติบโตของธุรกิจ ผ่านการขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์มของ Robinhood โดยในช่วงแรก SCB ตั้งเป้าจะขยายฐานลูกค้า และธุรกิจใหม่ ภายใต้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม

ปัจจุบัน Robinhood มีฐานลูกค้าที่ใหญ่จากผู้ลงทะเบียนใช้งาน 4.5 ล้านคน ไรเดอร์ 26,000 คน ร้านอาหาร 15,000 ร้าน และโรงแรม 16,000 แห่ง

นอกจากนี้ SCB มีอีกกลุ่มธุรกิจที่เป็น New Business ได้แก่ Cardx, Autox และแอปเงินกู้ ซึ่งล้วนแต่มีผลการดําเนินงานไม่ดีนัก จึงมองว่าแผนงานที่สะดุดตัวใน Robinhood อาจเกิดความกังวลต่อธุรกิจอื่น ๆ ของ SCB

SCB

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการปิดบริการ Robinhood จะส่งผลกระทบในระยะสั้นกับผลประกอบการปี 2567 แต่จะส่งผลดีในระยะยาวในแง่ที่ SCB จะไม่ต้องแบกภาระธุรกิจที่มีผลขาดทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ดังนั้น คงคำแนะนำ “ถือ” หุ้น SCB ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 117 บาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน