The Bangkok Insight

เปิด 3 เหตุผลหลัก ทำไม ‘สมชาย’ พลาด สว.

“เทพไท” แปลกใจ “สมชาย” พลาด สว. ทั้งที่มีคุณสมบัติครบ คาดมาจาก 3 เหตุผลหลัก

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “3 เหตุผลหลัก นายกฯสมชาย พลาด สว.” มีเนื้อหาดังนี้…3 เหตุผลหลัก นายกฯสมชาย พลาด สว.

สมชาย

เมื่อผลของการเลือกตั้ง สว.ชุดใหม่เสร็จสิ้นแล้ว ผลที่ออกมาอาจจะถูกใจบางกลุ่ม และถูกใจบางพวก ก็เป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง ซึ่งจะต้องมีการชิงไหวชิงพริบ มีการวางแผน เล่นเกม ล็อบบี้ บล็อกโหวต สารพัดรูปแบบ เพื่อให้ฝ่ายตนเองประสบความสำเร็จ นับตั้งแต่มีการมีประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งสว. เป็นต้นมา ผมยังไม่เคยแสดงความเห็นเรื่อง สว. ผ่านสื่อต่างๆเลย แต่เมื่อการเลือกตั้งยุติแล้ว จึงอยากจะแสดงความเห็นในฐานะผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง ในบางประเด็นเท่านั้น

ผมรู้สึกแปลกใจที่คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับการเลือกตั้งเป็นสว. ทั้งที่มีคุณสมบัติครบ เพียบพร้อมไปทุกอย่าง ถ้าหากจะได้รับการเลือกตั้งเป็นสว.เข้ามา ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด แต่การพลาดจากตำแหน่งสว. นั้น เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายได้มาก

สาเหตุที่ คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พลาดจากการเป็นตำแหน่งสว. น่าจะมาจากเหตุผลหลักๆ คือ

1.การจัดตั้งผู้สมัครสว. ไม่ครอบคลุมทั้งประเทศ ทำเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งสามารถผ่านมาได้ในรอบระดับอำเภอ และจังหวัด แต่เมื่อเข้าสู่รอบระดับประเทศ ซึ่งต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากการเลือกไขว้ของผู้สมัครทุกกลุ่มทั้งประเทศ ก็เป็นเรื่องยากที่จะผ่านด่านเข้ามาได้

2.น่าจะมาจากกลุ่มต่อต้าน คุณสมชาย เพื่อไม่ให้ผ่านเข้ามาเป็นสว. เพราะถ้าหากว่าเป็นสว.แล้ว จะเป็นแคนดิเดตประธานวุฒิสภา แย่งกับกลุ่มสว. สายสีน้ำเงิน ทำให้ คุณสมชาย ถูกเตะตัดขาออกไปเสียก่อน

3.คุณสมชาย มีกระแสคั่วประธานวุฒิสภามาแรงมาก สังคมเกิดความกลัวระบอบทักษิณจะครอบงำวุฒิสภา จึงถูกต่อต้านจากกลุ่มผู้สมัครสว.สายทั่วไป ที่เขม่นความเป็นน้องเขยคุณทักษิณ และไม่ได้คะแนนจากกลุ่มผู้สมัครสว. สายสีน้ำเงิน ที่แพ็คทีมกันมาเป็นอย่างดี

การที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคน ออกมาแก้เกี้ยวอธิบายต่อสังคมว่าปรากฏการณ์ที่ คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พลาดตำแหน่งสว. เป็นการแสดงว่ารัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยไม่ได้เข้าไปจัดตั้งหรือแทรกแซงการเลือกตั้งสว. ซึ่งเป็นเหตุผลในการอธิบายโดยใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส แต่ในความเป็นจริงต้องยอมรับว่าการวางแผนและการบริหารจัดการสายสีน้ำเงิน มีความเป็นมืออาชีพ มากกว่าสายสีแดง และสายสีส้มเป็นอย่างมาก

การที่คณะก้าวหน้าออกมารณรงค์เคลื่อนไหว ให้มีการสมัครสว. จำนวนมาก แต่ไม่มีการบริหารจัดการ ทำให้ผู้สมัครแต่ละคนต่างคาดหวังว่าตัวเองจะได้รับเลือกเป็นสว. จึงไม่มีใครยอมใคร สร้างดาวกันคนละดวง ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่เหมือนกับผู้สมัครสว. กลุ่มสายสีน้ำเงินที่ปิดตัวเงียบ เคลื่อนไหวใต้ดิน บริหารจัดการซักซ้อมกันเป็นอย่างดี จึงประสบความสำเร็จได้รับเลือกในลำดับต้นๆ ส่วนที่พลาดเป้าไปบ้าง ก็ยังอยู่ในกลุ่มรายชื่อผู้สำรองอีกหลายคน ถ้าเป็นสนุกเกอร์ ก็ยอมรับว่า รอบนี้สีน้ำเงิน กินแดง กินส้ม กินฟ้า กินเหลือง จนหมดกระดาน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo