‘ยูเอ็น’ เผย ยอดยึด ‘ยาบ้า’ ใน ‘อาเซียน’ ปี 2566 พุ่งทุบสถิติ ‘สามเหลี่ยมทองคำ’ เจอมากสุด

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 29 พฤษภาคม 2567

หน่วยงานด้านยาเสพติดของยูเอ็น เผย ปี 2566 เจ้าหน้าที่จับกุม “ยาบ้า” ในเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมของสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นโอดีซี (UNODC) เปิดเผยรายงานฉบับใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า ปริมาณยาเสพติดประเภทเมธแอมฟีทามีน (Methamphetamine) หรือ ยาบ้า ที่ยึดได้ในเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2566 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 190 ตัน

โดย 89% ของปริมาณยาบ้าที่ยึดได้ มาจากบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ พิกัดพรมแดนระหว่างประเทศไทย เมียนมา และลาว ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะพื้นที่ปลูกฝิ่น และเป็นที่ตั้งของห้องทดลองผิดกฎหมาย หรือที่เรียกกันว่า “ซูเปอร์แล็บ” ที่เปลี่ยนวัตถุดิบ และสารเคมี เพื่อนำไปผลิตเป็นยาบ้า ยาไอซ์ และเฮโรอีน

รายงาน ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว มีการบุกจับยาบ้าน้ำหนักกว่า 98.3 ตัน มูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์ และยาไอซ์ 90 ตัน ทั้งยาเสพติดจากเมียนมายังถูกส่งไปยังประเทศอื่น ๆ อย่างเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศอื่น ๆ ในแปซิฟิก

นายเบเนดิคต์ ฮอฟแมนน์ รองผู้แทนประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ยูเอ็นโอดีซี กล่าวว่า ทางหน่วยงานคุ้นเคยกับการบุกยึดยาเสพติด ที่ทำสถิติใหม่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ขนาดของการผลิตยาบ้าในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำได้กลายเป็นระดับที่ใหญ่มาก เช่นเดียวกับรายได้ และผลกำไรของการจำหน่ายยาบ้าที่เพิ่มขึ้นมาก

“ในเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยาเสพติดเหล่านี้อาจมีมูลค่าแตะระดับ 80,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ที่ส่งกลับไปยังเศรษฐกิจที่ผิดกฎหมายในภูมิภาค”

รายงานบอกด้วยว่า การผลิตยาบ้ากระจุกตัวในรัฐฉานทางตะวันออกของเมียนมา โดยองค์กรอาชญากรรมในเอเชีย ที่ร่วมมือกับกลุ่มติดอาวุธในรัฐฉาน ซึ่งได้รับสิทธิพิเศษในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ในธุรกิจด้านยาเสพติด และธุรกิจผิดกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกาสิโน คอลเซนเตอร์ การพนันผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์