ราคาหุ้นของเทสลา อิงค์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของสหรัฐ ดิ่งลงถึง 9% เมื่อวานนี้ (17 ส.ค) หลังจากที่ “อีลอน มัสก์” ซีอีโอบริษัท ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า เขาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันทางอารมณ์ครั้งใหญ่ และกำลังเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับ “ความทรมานอย่างมาก” จากนักลงทุนที่ทำช็อตเซลล์
การร่วงลงของหุ้นเทสลา ที่ถือว่าซบเซาสุดในรอบ 2 ปีเกิดจากการที่นักลงทุนในตลาดพากันตั้งคำถามถึงความสามารถของมัสก์ ในการเป็นผู้บริหารบริษัท ทั้งยังมีความกังวลเกี่ยวกับรายงานที่ว่า เจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบกำลังกดดันบรรดาผู้อำนวยการของบริษัท เพื่อให้ได้รายละเอียดว่า มัสก์ได้แจ้งข้อมูลอะไรแก่พวกเขาหรือไม่
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซีอีโอเทสลาได้สร้างความตกตะลึงให้กับตลาด จากการทวีตข้อความว่า กำลังพิจารณาที่จะถอนการจดทะเบียนของเทสลา เมื่อราคาหุ้นคาทะยานขึ้นไปถึงหุ้นละ 420 ดอลลาร์ และว่า เขาหาเงินทุนสนับสนุนได้แล้ว การเคลื่อนไหวที่ทำให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ เปิดสอบสวนเรื่องนี้
หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ของสหรัฐรายงานด้วยว่า กำลังมีความพยายามที่จะเฟ้นหาตัวผู้บริหารหมายเลข 2 เข้ามาแบ่งเบาความกดดันไปจากมัสก์ ที่กำลังประสบปัญหาอย่างมากใวนเรื่องการผลิตรถยนต์เทสลา โมเดล3 และโดนวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาบนทวิตเตอร์
“ปีที่ผ่านมา เป็นที่ยากลำบาก และเจ็บปวดที่สุดในอาชีพการงานของผม มันทุกข์มาก” มัสก์กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์นาน 1 ชั่วโมงกับนิวยอร์ก ไทมส์ ซึ่งมีรายงานว่า เขามีอาการสะอื้นมากกว่า 1 ครั้ง
มัสก์บอกด้วยว่า ไม่มีแผนที่จะละทิ้งการนั่งเก้าอี้บริหารควบตำแหน่งซีอีโอ และประธานกรรมการบริหาร ทั้งยังกล่าวว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เขาต้องรู้สึกทุกข์ทรมานอย่างมาก จากนักลงทุนที่ทำช็อตเซลล์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อาจทำให้เทสลาพังพินาศได้
